เที่ยวนครสวรรค์ครั้งใหม่ ไฉไลกว่าเดิม

จังหวัดนครสวรรค์ หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม “เมืองปากน้ำโพ” เป็นที่บรรจบของแม่น้ำที่สำคัญทั้ง 4 สายคือ แม่น้ำปิง วัง ยม และน่าน เป็นจุดเริ่มต้น ต้นกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยา และยังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานสมัยกรุงสุโขทัย ดังปรากฏหลักฐานจากประวัติศาสตร์โบราณสถานอีกทั้งยังเป็นเมืองที่รวมผู้คนหลากหลายทางชาติพันธุ์ ทั้งคนภาคกลาง ภาคอีสาน และชาวจีนโพ้นทะเล ก่อเกิดวัฒนธรรมที่หลากหลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนมาสัมผัส

วันนี้ผมและเพื่อนๆ สื่อมวลชน ได้รับเชิญร่วมเปิดมุมมองใหม่จังหวัดนครสวรรค์  ด้วยการเที่ยวนครสวรรค์ครั้งใหม่ ไฉไลกว่าเดิม เป็นสวรรค์แห่งใหม่ของนักท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดและต้องไปสัมผัส ด้วยการเชื้อเชิญจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครสวรรค์ โดยการนำของนายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ ททท. เพื่อไม่ให้เสียเวลา พวกเราก็เดินทางท่องเที่ยวสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันก่อน เริ่มกันที่ วัดหนองโพ อ.ตาคลี เมื่อไปถึงเราก็ต้องไปสักการะรูปหล่อ หลวงพ่อเดิม พุทฺธสโร  หรือ พระครูนิวาสธรรมขันธ์ เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องวิทยาคมและเครื่องรางของขลัง  ณ มณฑป เพื่อขอพรเป็นสิริมงคลกันก่อน ได้รับศีลรับพรแล้ว พวกเราก็เดินชมศาสนโบราณสถานภายในวัดที่สงบเงียบร่มรื่น

เริ่มจากพระอุโบสถ และสถูปบรรจุอัฐิและอังคารหลวงพ่อเดิม  เป็นหมู่เจดีย์สามองค์ล้อมรอบที่จัดแสดงวัตถุโบราณที่ขุดพบบริเวณด้วยกำแพงแก้วทั้งสี่ด้าน สถูปหรือเจดีย์องค์ที่สูงสุดอยู่บนฐานเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง องค์มณฑปจัตุรมุขเจาะเป็นช่องโค้งแบบโกธิค ภายในบรรจุอัฐิเถ้าอังคารของหลวงพ่อเดิม เจดีย์อีกสององค์บรรจุอัฐิเถ้าของ พระสมุห์ชุ่ม ขนฺธสโร  พระครูนิพนธธรรมคุต (หลวงพ่อน้อย เตชปุญฺโญ) หลวงพ่อฉะอ้อน ฐิตมนฺตี จากนั้นไปชม “มีดหมอยักษ์จักรนารายณ์” สร้างป็นอนุสรณ์ถึงสุดยอดวัตถุมงคล คือมีดหมอเทพศาสตราวุธของหลวงพ่อเดิม เดินถัดไปอีกนิดก็เป็น พระมหาธาตุเจดีย์นิวาสธรรมขันธ์กิตติคุณัปกาสินี สถาปัตยกรรมที่มีรูปแบบผสมผสานระหว่างภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน

ส่วนพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเดิม ภายในรวบรวมเรื่องราวบ้านหนองโพที่น่าสนใจ ตั้งแต่เริ่มตั้งถิ่นฐาน วิถีดำเนินชีวิต วัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดมานานกว่า 200 ปี  เพียงตบกระบองสองสามครั้งก็ไม่มีเชือกไหนออกเกะกะระราน ภายในห้องนี้จะมีหุ่นขี้ผึ้งของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ที่นั่งหน้าตาเข่งขรึมสง่างาม พร้อมคำกลอนเครื่องรางของขลังว่า “หมากดีที่วัดหนังถ้าเบี้ยขลังวัดนายโรง ไม้ครูอยู่คู่วัดอินทร์ส่วนมีดบินวัดหนองโพ พิศมรวัดพวงมาลัยครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง ราหูคู่วัดศรีษะทองแหวนอักขระขลังวัดหนองบัว ลูกแร่ที่วัดบางไผ่ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน เก้าสิ่งล้วนเป็นมงคลทั่วทุกคนต่างค้นหา ติดกายยามยาตราภัยมิกล้ามาแผ้วพาน”

อีกห้องมีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อเดิมที่ดูแล้วเหมือนยังมีชีวิตอยู่ถึง 3 องค์  องค์แรกเป็นหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อเดิมนั่งสบายๆ ในกุฏิไม้หลังเก่า องค์สองเป็นหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อเดิมยืนที่มีรูปช้างอยู่ด้านหลัง บอกเล่าความผูกพันที่หลวงพ่อเดิมมีต่อช้าง องค์ที่สามนั้นสวยงามจนบรรยายไม่ถูก ท่านนั่งขัดสมาธิอยู่บนแคร่ไม้ ดูแล้วมีปณิธานแก่กล้าที่ว่า “รอยเท้าของฉันเหยียบไว้เพื่อให้ระลึกว่า ฉันคือหลวงพ่อเดิม  ฉันปฏิบัติอยู่แต่ในกรอบของความดี ฉันครองตนอย่างสมถะไม่เบียดเบียน ฉันสร้างความเจริญในถิ่นกันดาร ฉันทำในสิ่งที่ดีเพื่อให้ศาสนารุ่งเรือง เธอควรเจริญรอยตามรอยเท้าของฉัน คิดดี ทำดี เป็นคนดี อยู่ในศีลธรรมอันดี นั่นแหละ…รอยเท้าของฉันจึงจะขลัง”

ชมและได้ความรู้จากพิพิธภัณฑ์พอสมควร ก็ได้เวลาอาหารกลางวัน พวกเราเลยทานอาหารกันที่ครัวทิดเทือง ร้านอาหารที่ขึ้นชื่อ ก่อนเดินทางต่อไปที่ วัดวรนาถบรรพต (วัดเขากบ) อ.เมืองนครสวรรค์สักการะรูปหล่อ หลวงพ่อทอง ภายในจะเห็นเจดีย์โบราณสมัยสุโขทัยอายุราว 600 กว่าปี  ศาลตากบ-ยายเขียด พระพุทธไสยาสน์ยาวประมาณ 10 วาเศษ ถ้ามีเวลาเดินขึ้นบันได 439 ขั้นไปบนยอดเขาปากพระบาง เข้าไปในวิหาร เราจะพบรอยพระพุทธบาทจำลองข้างซ้าย ที่พระยาธรรมิกราชได้นำมาจากลังกาทวีป แวะทานเครื่องดื่ม กาแฟ ที่ร้าน กาแฟ 21  Coffee ร้านกาแฟน่ารักสไตล์วินเทจ ก่อนเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ พร้อมรับประทานอาหารเย็น ณ บริเวณฟาร์มแกะ บึงบอระเพ็ด แล้วเข้าพักที่บึงบอระเพ็ด เลคไซด์ รีสอร์ทแอนด์สปา

รุ่งอรุณวันใหม่ ออกเดินทางไปยัง บึงบอระเพ็ด เป็นทะเลสาปน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและระบบนิเวศน์วิทยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทิวทัศน์สวยงาม และมีความหลากหลายทางชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นพืชน้ำ ไม้น้ำ ปลา ตลอดจนนกน้ำต่างๆ ทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพ รวมทั้งจระเข้ ที่นี่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งมีเรื่องราวอันน่าทึ่งน่าศึกษาอีกมากมาย ท่องบึง ชมบัว ดูนก ตามสโลแกน “นครสวรรค์…สวรรค์ของนักดูนก”  เมื่อไปถึงสถานีพัฒนาละส่งเสริมการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ดต้องลงเรือล่องลอยนาวาสู่ทะเลสาปอันกว้างใหญ่ไพศาล  ระหว่างเรือวิ่งเราจะเห็นคลื่นกระทบพื้นน้ำต้องแสงอาทิตย์ระยิบระยับ เห็นวิถีชีวิตเรียบง่ายแบบสโลว์ไลฟ์ วิธีการหาปลาแบบท้องถิ่น เพลิดเพลินกับบรรยากาศทุ่งดอกบัวแดงบานสะพรั่งไปทั่วพื้นน้ำ

จากนั้นก็ล่องเรือสู่ อุทยานนกน้ำ แหล่งดูนก 1 ใน 9 ของโลก เพราะที่นี่ชุกชุมไปด้วยนกน้ำนานาชนิดมากที่สุดในประเทศไทย จากการสำรวจพบว่า มีนกอยู่ 44 วงศ์ 100 สกุล จำนวน 156 ชนิด ได้แก่ นกอีแจว นกกาน้ำเล็ก นกกาน้ำปากยาว  นกอ้ายงั่ว นกกระจาบธรรมดา นกกระยางเปีย  นกกระสานวล นกกระสาแดง นกอีโก้ง นกกระเต็นอกขาว  นกช้อนหอยดำเหลือบ เป็ดเปีย เป็ดหางแหลม  รวมทั้งนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร ซึ่งเป็นนกหายาก

หลังสัมผัสความสวยงามของทุ่งบัวแดงและนกหลากหลายชนิดแล้ว ร่วมชมกิจกรรมในส่วนของบึงบอระเพ็ด ไม่ว่าจะเป็นการแสดงจระเข้หวาดเสียวของหมอชื่อดังแห่งบึงบอระเพ็ด ละครลิงคุณประกิต พบกับการแสดงอันแสนน่ารักของเจ้าลิง ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง เต้นฮิบฮอบ การแสดงละคร ฟันดาบ เก็บมะพร้าว บวกเลข ลอดบ่วงไฟ และอื่นๆ อีกมากมาย จากนั้นเข้าไปใน อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ด เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ที่มีรูปทรงเป็นเรือกระแซง สัมผัสกับความสวยงามของปลาหลายชนิดว่า 200 ชนิด ตื่นตาตื่นใจกับการเดินลอดอุโมงค์แก้ว ที่มีปลาแหวกว่ายอยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นปลาฉลาม ปลากระเบนราหู และปลาใหญ่อีกหลายชนิด

เดินจนเพลินก็ได้เวลาลาจากสวนน้ำ เพื่อไปสักการะ ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม ที่เคารพสักการะและเป็นศูนย์รวมน้ำใจของชาวบ้าน รวมทั้งผู้ที่สัญจรทางน้ำ แล้วก็ได้เวลาอาหารกลางวัน มื้อนี้เราทานกันที่ ร้านบ้านอีสาน ที่ตกแต่งสวยงาม มีรสนิยม ที่สำคัญคือ อาหารของที่นี่อร่อยถูกปาก แถมการบริการก็ดีเยี่ยม ไม่เป็นรองใคร

อิ่มท้องแล้วไปชมวิถีชุมชน “นครสวรรค์…เมืองอู่ข้าว อู่น้ำ อู่ปลา เมืองท่าปากน้ำโพ” ดูวิถีชีวิตชุมชนไทยมอญที่หมู่บ้านมอญอพยพมาจากเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี  มีประวัติยาวนานประมาณ 200 ปี สัมผัสกับการแต่งกายชุดมอญ และอาหารมอญแท้ๆ ที่เอร็ดอร่อย ชมกรรมวิธีการทำเครื่องปั้นดินเผา กระทั่งถึงเวลาอาหารเย็น ณ ร้านแพสี่แคว ทานอาหารพร้อมการล่องแพชม สะพานเตชาติวงศ์ ทัศนียภาพยามค่ำคืนสองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วก็เดินทางเข้าที่พัก โรงแรม 42C

เช้าอีกวันเดินทางสู่ อ.ตากฟ้า ท่องเที่ยวธรรมชาติ “นครสวรรค์…สีสันพรรณไม้เหลืองอร่าม ยามหน้าหนาว” ชมทุ่งทานตะวันที่ เป๋าตุงฟาร์ม สีเหลืองบานสะพรั่งเต็มพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ แล้วเดินทางไปยัง ไร่ปอเทือง ศูนย์เรียนรู้เกษตรกรรม ตามแนวพระราชดำริ สีเหลืองอร่ามสวยงามมากบานสุดลูกหูลูกตาบนเนื้อที่ 200 ไร่ และแวะรับประทานอาหารเที่ยงที่ ร้านบ้านคุณยาย ก่อนเดินทางไปที่ หมู่บ้านจันเสน นครโบราณสมัยทวารวดีในอดีตตอนต้นมีอายุไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี เป็นชุมชนแรกเริ่มในสุวรรณภูมิที่มีการติดต่อกับทางอินเดีย ร่วมสมัยกับเมืองอู่ทองและเมืองฟูนัน

ทริปนี้ได้ท่องเที่ยวกันพอหอมปากหอมคอ ถึงเวลาอำลาเมืองปากน้ำโพ นครสวรรค์ เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ สำหรับนักท่องเที่ยวสามารถสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดนครสวรรค์และพิจิตรได้ที่ ททท.สำนักงานนครสวรรค์ โทร.0 5622 1811-2 โทรสาร 0 5622 1810 E-mail : [email protected]. www.tourismnakhonsawan.org Facebook : Nakhonsawan.Phichit Line : @tatsawanphichit

 

RELATED ARTICLES