ใช้“ไกทอง”และ “ยักษ์แคระ”ปราบโจร   

ชีวิตราชการของ พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี (ตำแหน่งขณะนั้น) กว่าจะถึงตรงนี้ ประสบการณ์โชกโชนไม่ธรรมดา

ทั้งครอบครัวรับราชการเป็นครูหมด เจ้าตัวเกือบจะเป็นครูไปด้วย ขนาดเอ็นทรานซ์ติดคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้แล้ว ชีวิตยังหักเหมาเป็นตำรวจ โดยเข้าโรงเรียนพลตำรวจนครบาล จบมารุ่นที่ 44 ควบคู่กับการเรียนนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ก่อนใช้วุฒิปริญญาตรี เลื่อนเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรยศ ร.ต.ต.

เห็นเก่งๆไล่จับโจร พล.ต.ต.เมธี ยังเจียดเวลาเรียนหนังสือจนจบนิติศาสตร์ มหาบัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย

เส้นทางชีวิตนักสืบ เป็นลูกศิษย์ก้นกุฎิ พล.ต.ท.ธนู หอมหวล อดีตผู้ช่วย อ.ตร. ฉายา “เชอร์ล็อก นู”มาตั้งแต่สมัยเป็น ผบก.น.ใต้ หรือ “ผู้การใต้”

ย้ายมาอยู่กองปราบฯ เป็น 1 ในทีมงานคลี่คลายคดีฆ่า 2 แม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ ที่มี พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ อดีต ผบช.น.เป็นหัวหน้าชุด

เมื่อถามถึงเขี้ยวเล็บในการปราบปรามโจรผู้ร้าย อดีตนักสืบที่ผ่านงานสืบสวนมาทั้งกองปราบฯ และนครบาลบอกว่า ชีวิตนักสืบใช้อยู่ 2 กระบอก

กระบอกแรก เป็น BROWNING ไกทอง ขนาด 9 มม. ซื้อมาตั้งแต่เป็นหัวหน้าสายสืบอยู่ สน.พลับพลาไชย 1 และ 2 เดินคลุกอยู่กับบรรดานักเลงเยาวราช

เหตุที่ใช้ เพราะลูกดก มี 13 นัด ซื้อเมื่อประมาณปี 29-30 ราคาตอนนั้นอยู่ประมาณ 7 หมื่นบาท

ไปไหนมาไหน พกกระบอกเดียวอุ่นใจ

ปืนรุ่นนี้ ยังเหมาะกับคนรูปร่างอ้วน ท้วม ตัวใหญ่ เพราะพกด้านหน้ามันจะแนบพุง  ไม่เกะกะ ลำเลื่อนแบนบาง รองนกสับไม่ยื่นยาวทิ่มพุงคนพก ปิดซ่อนมิดชิด ซ้ำระบบเซฟตี้ยังดี ยิงไม่มีขัดลำ

สำหรับกระบอกนี้ ปลิดชีพคนร้ายมาก็หลาย ที่จำได้คือ เหตุการณ์ขณะเข้าล้อมจับ นายสนั่น หรือชาติ จินาพันธ์ อดีตมือปืนรับจ้างเบอร์ 1 ของภาคตะวันออก คู่ปรับพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 สมัยท่านยังเป็นรองผกก.อยู่ที่สืบสวนใต้ ได้วิสามัญฆาตกรรม “ไอ้ช้าง” สมุนมือขวานายสนั่น ขณะที่ลูกพี่แหกวงล้อมหลบหนีไปได้ แต่มาถูกยิงตายในภายหลัง

ส่วนเขี้ยวเล็บกระบอกที่สอง

เป็นปืน COLT.DEFENDER SERIES 90 ขนาด 11 มม. กระบอกนี้เขาเรียก “ยักษ์แคระ”ซื้อตอนสมัยรองผู้การ 191 เป็นผู้บริหารแล้ว ไม่ต้องไปปล้ำไปจับโจรเอง

นักเลงปืนเพื่อนผม พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. แนะนำ กระสุนขนาด 11 มม. ปั๋งหงาย ปั๋งหงาย พอเพื่อนแนะนำ เลยไปทดลองยิง มีสะบัด แต่คุมได้ รูปร่างเล็กกะทัดรัดจนเป็นที่มาของ ชื่อ “ยักษ์แคระ”

ถึงวันนี้เป็นนายพลเป็นผู้บริหารหน่วยแล้ว ยังไปซ้อมยิงปืนเสมอ เพื่อไม่ให้ปืนฝืด และให้คุ้นเคยกับเสียงปืน เพราะถึงเวลา หรือเข้าสถานการณ์ บางคนได้ยินเสียงปืนถึงกับกระโดดสะดุ้ง มีให้เห็นเยอะแยะ

อย่างน้อยต้องฝึกยิง 3 เดือนครั้ง ผู้การเมธีทิ้งท้าย….

RELATED ARTICLES