จับหนุ่มอ้างกองปราบตุ๋นระดมทุน

ที่กองบังคับการปราบปราม  พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รองผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา สาวัตรกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม แถลงผลการจับกุม นายสังคม ไวไธสง อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาข้อหา ฉ้อโกง ฉ้อโกงประชาชน กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และไม่มีสิทธิใช้ยศของเจ้าพนักงาน กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ ที่บริเวณลานจอดรถหน้าโรงพยาบาลย่าน ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา พร้อมของกลาง หมวกแก๊ปติดตราหน่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยงานต่างๆ 4 ใบ ปืนลูกโม่ .38 ยี่ห้อ S&W 1 กระบอก กระสุน  44 นัด มีดพก 2 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม หนังสือเดินทาง 1 เล่ม หนังสือเดินทางประจำเรือ 1 เล่ม เอกสาร Statement บัญชีธนาคาร 1 ชุด และบัตรประจำตัว ที่ใช้ในการแอบอ้าง 1 ใบ

สืบเนื่องจาก ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมอ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบปราม ยศ ร.ต.อ. เป็นลูกน้องคนสนิทของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับผู้บัญชาการและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมาชื่อว่า ““รวมพลังสามัคคี” “ หลอกลวงชักชวนประชาชนให้นำเงินมาร่วมระดมทุนในโครงการโปรโมชั่นเงินบุญ มีแผนการลงทุนในรูปแบบต่างๆ มากมายกว่า 272 โปรโมชั่น อาทิ โปรโมชั่นช่วยงานผู้ใหญ่ โปรโมชั่นตอบแทนผู้ใหญ่ โปรโมชั่นล่องเรือสำราญ โปรโมชั่นเซ็นสัญญาฝั่งลาว โปรโมชั่นช่วยบอสจ่ายธุรกรรมหน้าเคาเตอร์ธนาคาร แต่ละโปรโมชั่นจะได้รับเงินค่าตอบแทนกลับมาเป็นมูลค่าสูง เช่น ลงทุนเพียงแค่ 1 หมื่นบาท จะได้รับค่าตอบแทนกลับมาถึง 500 ล้านบาท รวมถึงพูดจาหว่านล้อมให้สมาชิกในกลุ่มเชิญชวนญาติพี่น้อง หรือคนรู้จักเข้ามาเป็นสมาชิกเพิ่มอีกด้วย ทำให้มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อกว่า 300 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 22 ล้านบาท กว่าที่ผู้เสียหายจะรู้ตัวว่าถูกหลอกก็สายไปเสียแล้ว

ภายหลังทราบเรื่อง พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการปราบปราม สั่งการให้กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ลงพื้นที่สืบหาเบาะแส รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นภัยต่อสังคม จำเป็นต้องเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว กระทั่งต่อมาทราบว่าได้หนีมาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา จึงนำกำลังติดตามจับกุมตัว สอบสวนรรับสารภาพว่ าก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2562 เคยถูกจับกุมมาแล้ว 1 ครั้ง ในคดีลักษณะเดียวกัน ก่อนศาลจะพิพากษาลงโทษจำคุก ให้รอลงอาญา ย่ามใจกลับมาก่อเหตุในลักษณะเช่นเดิมเรื่อยมา

RELATED ARTICLES