พกความสดใสสมวัยที่เต็มไปด้วยความมั่นใจลงสนาม
“ไผ่”วิชาธร วงษ์พันธุ์ เพิ่งก้าวเข้าเป็นน้องใหม่ “ค่ายดรีมทีมเน็ตเวิร์ค” ผลิตข่าวป้อนให้สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และลุยทีวีดิจิตอลในช่องพีพีทีวีของกลุ่มปราสาทโอสถ หลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่เครือเนชั่นนานหลายปี
สาวชาวกรุงคนนี้เกิดในครอบครัวธุรกิจค้าเครื่องเงิน เครื่องประดับ เรียนประถมโรงเรียนวัดไทรย่านสาธุประดิษฐ์ ไปต่อมัธยมต้นโรงเรียนนนทรีวิทยา มัธยมปลายโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว อยากเป็นผู้ประกาศข่าว มอง “สายสวรรค์ ขยันยิ่ง” เป็นต้นแบบในยุคสถานีข่าวไอทีวีกำลังเฟื่องฟู
เอ็นทรานซ์เข้าเรียนคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งที่ใจอยากเรียนบัญชี วันประกาศผลถึงกับน้ำตาพราก เพราะแอนตี้จุฬาฯ อยากเข้ารั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนื่องจากผูกพันเดินท่องท่าพระจันทร์ บางลำพู วัดพระแก้ว และยังมองว่า สังคมพระเกี้ยวค่อนข้างไฮโซ ถึงกระนั้นก็ทู่ซี้เรียนจนจบใช้เวลา 5 ปี ไปเป็นครูโรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา อีกทั้งสอนพิเศษที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
ไม่นานพลิกผันทำงานกราวด์ของสายการบินศรีลังกา แอร์ไลน์ อิหร่านแอร์ และเจจูแอร์ของเกาหลีใต้ ปีกว่าย้ายกลับเป็นครูสอนชั้นประถม 6 โรงเรียนพระหฤทัยคอนเวนต์ เพื่อนชวนให้ไปทำงานที่เนชั่น ตำแหน่งโปรดิวเซอร์ “เพื่อนว่าไผ่คุยเก่ง พูดเก่ง น่าจะได้ทำงาน แต่ไม่มีประวัติประสบการณอะไรเลยก็มาสมัครดู ไม่รู้เลยว่าทำอะไร เพราะไม่รู้จักวงการทีวี วงการข่าว แต่ใจอยากทำ” เธอว่า
ประเดิมทำรายการเก็บตกจากเนชั่น มีหน้าที่ทำสคริปต์ รันดาวน์ เช็กภาพ ไผ่บอกว่า วันแรกงงไปหมด แต่เขากล้ารับเราเข้าทำงานคงเชื่อใจ วันที่สัมภาษณ์ก็คุยแต่เรื่องประเด็นการเมืองอย่างเดียว เราชอบดูข่าวอยู่แล้ว ถ้าถามเรื่องพวกนี้ก็คุยได้ ดูข่าวตั้งแต่เด็ก ได้ดีเรื่องความรู้รอบตัว สัมภาษณ์แค่นี้เขาก็รับเข้าทำงาน
อยู่ไม่ถึงปีขยับชั้นนั่งทำหน้าที่โปรดิวเซอร์รายการคมชัดลึก รายการทอล์ก ที่ “จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์” เป็นพิธีกร เจ้าตัวรับว่า เป็นรายการทอล์ก รายการสดเป็นเอกลักษณ์ของช่อง ทุกวันต้องคิดประเด็นเองเป็นงานใหญ่ที่รู้สึกกดดัน แต่ท้าทายดี จากที่เขาว่า จอมขวัญเป็นคนที่ทำงานด้วยยาก ทำไปทำมาสนิทกันเหมือนพี่น้อง เข้าขากันได้ดี ต่อมาโดนโยกไปทำข่าวโต๊ะการเมือง ไม่เคยทำข่าวภาคสนามเพราะอยู่เบื้องหลังมาตลอด จากที่ไม่รู้เลยก็มาถึงทุกวันนี้ได้
“หมายรูทีนไปหมด ทั้งทำเนียบฯ สภาฯ ม็อบ ไปหมด มีหมายไหนก็ทำหมด เริ่มได้แหล่งข่าวเยอะ แต่ไผ่ชอบทำรายการแบบเจาะลึก ไม่ใช่แค่ยื่นไมค์จ่อสัมภาษณ์ รู้สึกมันสนุก เป็นเหตุผลสำคัญที่ตัดสินใจย้ายค่าย เพราะได้ทำรายการแนวนี้ เป็นเจ้าของรายการเอง มองว่า มันเป็นโอกาสที่น่าสนใจ ถือว่าไผ่ชอบมากกว่างานรูทีน ถึงตกลงเอา ตอนแรกคิดหนัก อาลัยอาวรณ์กันใหญ่ ที่เนชั่นมันดี เหมือนโรงเรียน ทำสากกะเบือยันเรือรบ ทำทุกอย่างทำกันได้ถูไถกันได้”
ไผ่ทิ้งมุมมองว่า หากเชื่อมือกันก็ทำงานกันง่าย พูดนิดเดียวรู้แล้ว ไม่ต้องพูดเยอะ สมัยก่อนโดนสบประมาท เพราะยังเด็ก ผู้ใหญ่เคยว่า อายุแค่นี้เป็นโปรดิวเซอร์ได้ยังไง แต่ก็ดี ดูถูกเยอะ ทำให้เราตั้งใจที่จะต้องพิสูจน์ตัวเอง
