ภายหลังมรณกรรมของ “อาม่า” หญิงชราผู้มีคุณูปการแก่ปากท้องของนักสืบเมืองหลวงมานานหลายสิบปี
ใช่ว่า “ธุรกิจสีเทา” จะละลายหายสาบสูญไปพร้อมลมหายใจและร่างกายของเธอ
บรรดาขาใหญ่ทั้งหลายยังคงท้าทาย “กฎเหล็ก” ดำเนินธุรกิจตัวเองอย่างเฟืองฟูป้อน “อาหารนอกระบบ” เข้าสู่วงจรสีกากีอิ่มหมีพีมัน
โดยเฉพาะ “เฮียเหลียง” เจ้าของกิจการตู้ม้าในจังหวัดนครปฐม อาศัยความสนิทชิดเชื้ออดีตบิ๊กตำรวจที่เคยเป็น “นายทุนใหญ่” ควักกระเป๋าทำทีมลูกหนังยุคแรกกลับเข้ามาแผ่อาณาจักรตะเข็บชายแดนฝั่งธนบุรี
เป็นต้นเหตุให้เกิดไลน์หลุด
เมื่อ พ.ต.อ.ไพโรจน์ นาเมืองรักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญ ระบายความอึดอัดใส่ “เจ้านาย” ท้าทายให้เสนอย้ายเพราะเบื่อหน่ายคำสั่งให้รับงานติดตั้ง “ตู้ม้า”ในพื้นที่รับผิดชอบของตัวเอง
ฟ้อง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แม่ทัพใหญ่ให้ช่วยบำบัดทุกข์จนกลายเป็นประเด็นร้อนว่อนโลกโซเชียล
ท้ายที่สุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ต้องระดมสั่งการ พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.พลฑิต ไชยรส รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล “ดับไฟร้อน” ไม่ให้ลุกลามบานปลาย
เรียก พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 และผู้กำกับการสถานีในสังกัด ทั้ง 10 โรงพัก เข้าประชุมบริหารวาระ “เร่งด่วน” เรื่องแชตไลน์ร้องทุกข์ของ พ.ต.อ.ไพโรจน์ นาเมืองรักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญ กล่าวหาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา หลุดเข้าไปใน “ศปก.น.2566” ไลน์กลุ่มศูนย์ปฏิบัติการตำรวจนครบาลที่มีสมาชิกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 393 คน รวมถึง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลรวมอยู่ด้วย
นอกจาก พ.ต.อ.ไพโรจน์ นาเมืองรักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญจะเขียนข้อความระบายความรู้สึกอัดอั้นเข้าไปในกลุ่มไลน์เรื่องเอา “ตู้ม้า” มาลงในพื้นที่ ยังพาดพิงเรื่องโดรนตรวจการณ์โรงพักต้องไปขอความอนุเคราะห์จากวัดปากน้ำภาษีเจริญ
กระนั้นก็ตาม ในที่ประชุม พ.ต.อ.ไพโรจน์ นาเมืองรักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญ นำพวงมาลัยเข้าขอขมา พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9
“อ้างเมาขาดสติ” ขอสำนึกผิดที่ขาดวิจารณญาณ ประกอบกับมีความเครียด ความกดดันเรื่องงาน และได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดจากผู้ไม่หวังดีมาโจมตีผู้บังคับบัญชาให้ฟัง โดยที่ตัวเองไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีก่อน ถึงโพสต์ข้อความลงในกลุ่มไลน์
เมื่อฟื้นคืนสติได้แล้วก็รีบลบข้อควา ออกจากกลุ่มไลน์ในทันที ไม่คิดว่าจะมีใครแคปหน้าจอไปลงในโลกโซเชียล
เจ้าตัวอยากกราบขอขมาผู้บังคับบัญชา ทั้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 และ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจากการกระทำอันขาดความยั้งคิดไปชั่วขณะ
รู้สึกเสียใจ อยากขอผู้บังคับบัญชายกโทษให้ด้วย
พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ยอมรับพวงมาลัยขอขมา ก่อนบอกว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ย่อมมีบ้างที่จะเกิดความไม่เข้าใจกัน ด้วยความเป็นผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชา อีกทั้งยังเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานเหมือนกัน
ยืนยันไม่ได้รู้สึกโกรธเคือง และไม่ได้ต้องการดำเนินการทางคดีความแต่อย่างใด
ส่วนโทษทางวินัย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจะพิจารณาอีกครั้ง
ลงเอยด้วยดีแต่ไม่มีพูดถึง “ตู้ม้า” ของขาใหญ่
10