ชื่อชั้นนั้น มันสำคัญแค่ไหน

ในอดีตกองบัญชาการตำรวจนครบาลเปรียบเสมือน โรงเรียนสร้างนักสืบ ประดับวงการตำรวจ

คงไม่ต้องย้อนเวลายาวไปถึงสมัยกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลพระนครเหนือ พระนครใต้ และธนบุรี

เอาแค่กองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 1-9 ก็ทิ้งเรื่องราวแห่งตำนานไว้มากมาย

ชื่อชั้นของนักสืบหลายคนเป็น “มือปราบระดับหัวกะทิ” ที่ถูกผู้เป็นนายคัดกรองมาอย่างถี่ถ้วน ล้วนมีประสบการณ์ไต่เต้าจากการ “บ่มเพาะ”ของนายตำรวจนักสืบรุ่นพี่

มีดีกรีเป็นที่ยอมรับ

อาทิ สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ปรีชา ธิมามนตรี ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง สำเริง สุวรรณพงษ์ วีระศักดิ์ มีนะวานิชย์ ชาญ แสงเสียงฟ้า ธัมรงค์ วงศ์แป้น วิชัย สังข์ประไพ บรรดล ตัณฑะไพบูลย์ ปกรณ์ กิตติวัฒน์ คณิศร์ชัย มหินทรเทพ เจริญ ศรีศศลักษณ์ สุชาติ ธีระสวัสดิ์ สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข

ล้วนผ่านเวทีประลองยุทธ์หยุดเหล่าอาชญากรทำหน้าที่ “ผู้นำทัพ” นักสืบมาแล้วทั้งสิ้น

บรรดาโจรได้ยินชื่อแล้วยังเข็ดขยาดหวาดผวา

มาถึงโลกยุคปัจจุบัน คืนวันเปลี่ยนไปตามเข็มนาฬิกา ให้หลับตานึกแล้วขานชื่อ “ผู้กำกับกองสืบ” อาจใช้เวลาอยู่หลายคืบกว่าจะท่องได้ครบเมืองหลวง

ทั้งที่มีแค่ 9 ชีวิตไม่ถึงกับต้อง “ดีดลูกคิด” ตีโจทย์เป็นเลขคณิตคิดในใจ

ขออนุญาตทบทวนความทรงจำกัน พร้อม “อัพเดตใหม่” ภายหลังการแต่งตั้งโยกย้ายผ่านไปไม่ทันสะเด็ดน้ำ

พ.ต.อ.ชัยพล เอกกุล ยังคงได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากขั้วอำนาจนั่งเป็นผู้กำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 1 เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 2

มี พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี ขยับมาเป็นผู้กำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 3 แทน พ.ต.อ.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ ที่กระเด็นเป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลำหิน  ส่วน พ.ต.ท.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี ขยับขึ้น ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 4 แทน พ.ต.อ.ศุภชัจจ์ เปี่ยมมนัส ที่โดนดันขึ้นเป็นรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3

พ.ต.อ.ปนาถพล ปุณศรี ผู้ช่วยนายเวร พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เสียงเก้าอี้ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 5 แซะ พ.ต.อ.ธีระศักดิ์ ภิญโญ ไปเป็นผู้กำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 9  แทน พ.ต.อ.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ที่ขึ้นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง

ขณะที่ พ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 6 พ.ต.อ.กุลเชษฐ์ บางพราน ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 7 และ พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 8 ยังยึดตำแหน่งเอาไว้ได้

ด้านทัพ “กองสืบใหญ่” ของ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล ปรับตำแหน่งรองผู้การไม่น้อย เมื่อ พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ย้ายไปเป็นรองผู้บังคับการตำรวจจราจร พ.ต.อ.ภิรมย์ สวนทอง กระเด็นเป็นรองผู้บังคับการกองกฎหมาย

เปิดทางให้ พ.ต.อ.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ รองผู้บังคับการตำรวจน้ำ และ พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนำญหมอ ผู้กำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล มานั่งตำแหน่งแทน

ระดับผู้กำกับ พ.ต.ท.กฤษณะ วัฒนะธำรงค์ รองผู้กำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล แทน พ.ต.อ.สุนทรเกียรติ คล้ายกรุต ที่ออกไปเป็นผู้กำกับการตำรวจนครบาลจรเข้น้อย

พ.ต.อ.ฐิรวิทย์ บุษบัน ผู้กำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ ผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล และ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือสื่อสาร กองบังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล ตามเดิม

มี พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา มาเป็นผู้กำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล และ พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เป็นผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล แทน พ.ต.อ.ประยูร ศาลาทอง ที่ถูกเตะออกนอกหน่วยเป็นผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อเลียงไล่ทำเนียบนักสืบรุ่นใหม่แล้ว น่าจะตอบคำถามได้ว่า

ชื่อชั้นนั้น มันสำคัญแค่ไหน !!!