ถ้าจะปฏิรูปตำรวจให้ปฏิรูปหัวใจกันก่อน

“วัฒนธรรมบ้าๆที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ไม่เคยสอน ไม่เคยบรรจุไว้ให้ตามประจบสอพลอผู้มีอำนาจ เพราะเมื่อใดการแต่งตั้งตำรวจยังเต็มไปด้วยความอยุติธรรม เมื่อนั้นประชาชนและสังคมจะหาความสงบสุขไม่ได้”  พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ว่าไว้เมื่อ 2 ปีก่อน

หลังจากตัวเองโดนมรสุมย้ายไปลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ว่ากันว่า มีผู้อิทธิพลขบวนการค้ามนุษย์ที่เขาเป็นหัวเรือใหญ่ในการสำนวนการสอบสวนอยู่เบื้องหลังการโยกย้ายครั้งนั้น

ทำให้นายพลมือสอบสวน “ตงฉิน” ตัดสินใจลาออก พร้อมทั้งทำเรื่องของลี้ภัยพาครอบครัวไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย

อ้างเหตุผลโดน “ขู่ฆ่า”

ดูเหมือนว่าเวลาผ่านไปไม่มีใครสนใจแกะรอยหาพยานหลักฐานพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามที่ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ออกมาเปิดโปง

ทว่า “ไอ้โม่ง” ยังคงวนเวียนอยู่กับการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไร้ความเป็นธรรม ขณะที่ “ผู้เป็นนาย” ไม่คิดปกป้องคุ้มครองคนทำงาน

การถูกเสนอให้ไปอยู่ปลายด้ามขวานประเทศ หลายคนอาจมอง พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ กลัวตายถึงยอมรับไม่ได้ในคำสั่งโยกย้ายในครั้งนั้น

แต่ตัวเขายืนยันว่า

“ผมเป็นตำรวจมา 30 กว่าปีผ่านอะไรมามาก ถามว่า กลัวโจรไหม ตำรวจต้องไม่กลัวโจร และผมไม่เคยคบโจร โจรต้องเป็นศัตรูกับตำรวจ แต่การสู้กับคนไม่มีคุณธรรม มีสมัครพรรคพวกที่เห็นตัวและไม่เห็นตัวเป็นร้อย  ผมว่าเกินกำลังของผม ยิ่งสถานการณ์แบบนี้”

สิ่งหนึ่งที่ระบายไว้ครั้งนั้น เขามองว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติล้มเหลว เพราะเหตุนี้ด้วย คนวิ่งเต้น คนมีพวกไม่มีความสามารถ ไม่ทำงานกลับได้ดี ส่วนคนทำงานทุ่มเท มีความสามารถกลับมีภัย

“มันเป็นแบบนี้ ตำรวจดีๆจึงท้อแท้ ผมว่า ถ้าจะปฏิรูปตำรวจให้ปฏิรูปหัวใจกันก่อน อย่าเลือกปฏิบัติ ไม่ใช่พวกกู กูจับ ถ้าเป็นพวกกูไม่จับแบบนี้คนรับกรรม คือ ประชาชนครับ เมื่อได้ตำรวจไม่ดีลงพื้นที่ประชาชนก็แย่เกิดปัญหาสังคมตามมามากมาย คนพวกนี้ปล้นตำแหน่งเขามาทั้งนั้น ทั้งไม่ควรมีสิทธิ์ เติบโตมาอย่างไม่มีความสามารถเพราะระบบแบบนี้ไง ขอให้มีช่อง มีพรรคพวก คนไม่มีพวกแม้จะดีแสนดีก็ไปไม่รอดตายอย่างเดียว”

สะท้อนเรื่องจริงที่ยังอยู่ในวังวนของทุ่งปทุมวัน

พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 35 เจ้าของรางวัล พนักงานสอบสวนดีเด่น ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหลายสมัย รางวัลโรงพักอันดับ 1 ของประเทศ เป็น ข้าราชการดีเด่น ได้ “ครุฑทองคำ” จากนายกรัฐมนตรี เป็นที่ยอมรับจากผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชาและชาวบ้านในพื้นที่

ถึงวันนี้ต้องลี้ภัยไปใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน

พ่ายแพ้ต่อระบบการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผู้เป็นนายไม่ได้ปกป้อง

 

 

 

 

 

 

 

RELATED ARTICLES