คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผลกระทบจากการแต่งตั้งโยกย้ายทีไร มักสร้าง ความห่อเหี่ยว ในหัวใจของหลายครอบครัว
แต่มีบางคนยังหน้ามืดตามัวคิดวางแผนชั่วทำลายองค์กรตัวเอง
นับจากแผนปฏิบัติการจ้างลาออก “เปิดหลุม” ทุ่มทุนมหาศาลกลายเป็นเกมยอดฮิตเมื่อหลายปีก่อน กระทั่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กลิ่นไม่ชอบมาพากล พยายาม “อุดรอยรั่ว”ของช่องโหว่ในการหากินกับเก้าอี้คนใกล้เกษียณ
ถึงกระนั้นกลิ่นไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการวิ่งเต้น “ประมูลเก้าอี้” ยังไม่หมดไปจากทุ่งปทุมวัน
นับวันยิ่งมีเสียงลือหนาหูมากขึ้น
ขนาดเพิ่งจบการแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผู้บังคับการถึงสารวัตรไม่ทันสะเด็ดน้ำ บรรดา “หน้าม้า” เริ่มออกอาละวาดทำตัวเป็น “นายหน้า” เสนอราคาตกเบ็ดบ้างแล้ว
ตัวเลข 7 หลักแลกขึ้นตำแหน่งผู้กำกับเอาหรือเปล่า
“แสนนึงฉันก็ไม่ยอมจ่าย” แม่บ้านคนหนึ่งสารภาพ หล่อนยอมให้สามีดักดานบนเก้าอี้ตัวเดิมไม่เลือกเจริญก้าวหน้าในทางมิชอบ
ด้วยเพราะตลอดเส้นทางรับราชการไม่เคยเสียเงินซื้อตำแหน่ง
ขณะที่ สารวัตรบางคน ตัดสินใจเจียดเงินเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตนับล้านหวังแลกความก้าวหน้า
แต่ราคายังไม่เพียงพอกับการต่อรอง
มีอีกไม่น้อยพยายามทำใจ ไม่ได้ตำแหน่ง ไม่เป็นไร ขออย่าให้โยกย้ายไปห่างไกลครอบครัวก็พอ สุดท้ายไม่อาจพ้นวังวน “ก้นร้อน” อันเนื่องมาจากไร้ “ก้อน” เจรจาอ้อนวอนอย่างที่วาดหวัง
ได้รับฟังเรื่องราวเหล่านี้มารู้สึกอย่างไร
บ่อยครั้งคิดเป็นแค่ข่าวโคมลอย เลือนลอยไม่เป็นความจริง เหมือนลิงหลอกเจ้า กุนิยายอื้อฉาวจ้องทำลายชื่อเสียงอาณาจักรสีกากี
เพราะทุกครั้งที่เกิดข่าววิ่งเต้นซื้อขายเก้าอี้ ไม่มีใบเสร็จใช้ยืนยันหลักฐานสำเร็จความผิด ความวิปริตถึงแทรกซึมเกาะกินอยู่ในบทผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
เราถึงเห็นผลของการทำงานประกอบด้วยใบประกาศเกียรติคุณไม่มีความหมายเท่าความกระหายของขบวนการเหล่านี้
บางทีไม่ต่างกับไฟไหม้ฟาง
และข้ออ้างของคนผิดหวัง ???