พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล2 พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล2 สั่งการให้ พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสายไหม พ.ต.ท.ดิษยเดช ยิ้มแย้ม รองผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสายไหม พ.ต.ท.ปราโมทย์ อรชุน สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลสายไหม จับกุมตัว นายอภิวัฒน์ ตันเจริญ หรือเหน่ง อายุ 35 ปี ชาวจ.สมุทสาคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่จ.1651/2567 ลง 16 ธ.ค. 67 ข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืน , พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ , ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย , ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น” จับกุมได้ บริเวณจุดตรวจบุคคลและพาหนะสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่1 ตำบลมีชัย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ของวันที่ 22 ต.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน. สายไหม พบรถเก๋งต้องสงสัยมีชาย 2 คน หญิง 1 คน อยู่ในรถภายในซอยสายไหม 57 เขตสายไหม จึงเรียกตรวจแต่ไม่หยุดซ้ำยังเร่งเครื่องหนี ชนรถชาวบ้านและรถสายตรวจที่จอดขวางเสียหายนับ 10 คัน ระหว่างทางยังยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเปิดทางหนี สุดท้ายเสียหลักชนกำแพงในซอยสายไหม 10 สามารถจับกุมนายวุฒิศักดิ์ ตันเจริญ อายุ 37 ปี คนขับได้คารถ และทำการปิดล้อมพื้นที่นานกว่า 6 ชม. ก่อนจับกุมน.ส.นันทนา เริ่มเจริญ อายุ 31 ปี ภรรยาคงเหลือแต่ นายอภิวัฒน์ ตันเจริญ หรือเหน่ง ผู้ต้องหารายนี้ ที่หลบหนีไปได้ จากการตรวจค้นรถพบของกลางยาไอซ์ 1 กก. ยาบ้า 1.6 แสนเม็ด กระทั่งสืบทาบว่า นายอภิวัฒน์ หรือเหน่ง หลบหนีการจับกุมไปอาศัยอยู่ที่ สปป.ลาว เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานงานกับทางการ สปป.ลาว ให้ช่วยติดตามจับกุม จนสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลางอาวุธปืน 4 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่างๆกว่า 60 นัด โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง และถูกดำเนินคดีในส่วนของทาง สปป.ลาวเรียบร้อยแล้ว ก่อนประสานส่งมอบตัวผู้ต้องหารายนี้ให้ทางการไทยผ่านช่องทางด่าน ตม.จว.หนองคาย จากการสอบสวนนายอภิวัฒน์ หรือเหน่ง เบื้องต้นรับว่า ตนเป็นคนขนย้ายยาเสพติดที่ตรวจยึดได้จริง ซึ่งก่อนหน้าที่จะถูกตำรวจไล่จับ ได้ส่งยาในลักษณะนี้มาแล้ว 5 ครั้ง ส่วนยาที่ยึดได้เป็นการส่งครั้งที่ 6 และในวันเกิดเหตุตนเองพกปืนมาด้วย 2 กระบอก โดยเป็นคนยิงใส่ตำรวจขณะถูกไล่จับกุมไปจำนวน 5 นัดเพื่อเปิดทาง จนมาถึงหลังตลาดเซฟวันโก จึงกระโดดลงรถแล้วเดินปะปนไปในกลุ่มลูกค้าแล้วเดินออกมาเรียกแท็กซี่บริเวณแยก คปอ. ไปพักกับเพื่อนย่านพระราม2 หนึ่งคืน ก่อนเรียกแท็กซี่เดินทางมาต่อรถที่สระบุรี ไปโคราช และต่อรถไปจ้างเรือข้ามฝากไปประเทศลาว ที่จ.หนองคาย และเข้าทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน ประเทศลาวจนมาถูกจับ ส่วนอาวุธปืนอีก 2 กระบอก เป็นของเพื่อนที่ทำงานร้านอาหาร ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจลาว จับพร้อมกัน
นอกจากนี้ตรวจประวัตินายอภิวัฒน์ ตันเจริญ หรือเหน่ง พบว่าปี 53 ถูกจับข้อหาเสพยาเสพติดประเภท 1 ท้องที่ สภ.เมือง สมุทรสงคราม ปี 55 ถูกจับข้อหาพยายามฆ่า ท้องที่สภ.เมืองสมุทรสาคร และมาถูกจับในคดีนี้