มันเป็นภาพความแตกต่างระหว่างชีวิตนักวิจารณ์อยู่บนจานข้าวร้านอาหาร “เพื่อตัวเอง” กับอีกชีวิตที่ทำหน้าที่ตำรวจชุดจู่โจมขี่รถจักรยานยนต์ทำงาน “เพื่อประชา” ไล่จับรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซิ่งแหกการตรวจค้นกระทั่งพลาดประสบอุบัติเหตุ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียบุคคลากรน้ำดีที่กำลังมีอนาคตไปอีกชีวิต
และอีกชีวิตของลูกน้อยเพิ่งลืมตาดูโลกไม่กี่เดือนที่ต้องกำพร้าพ่อ
หนูน้อยนอนหลับปุ๋ยรออยู่ที่บ้านยังไม่มีโอกาสรับรู้วีรกรรมความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่ของพ่อบังเกิดเกล้า
ไม่มีอ้อมอกอุ่นของพ่อให้นอนหนุนอีกแล้ว
ส.ต.ท.อดิศร อันทราศรี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราบ ( ปฏิบัติหน้าที่ชุดจู่โจม ) สถานีตำรวจนครบาลคันนายาว ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ เรียนจบโรงเรียนหนองกุงศรีวิทยาคาร มุ่งหวังอยากเป็นตำรวจ ตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตนักเรียนนายสิบตำรวจที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 รุ่นจอหอ 58 กองร้อย 3 หมวด 4 และยังมุมานะศึกษาต่อปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพิ่งรับพระราชทานปริญญาบัตรเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
“หมู่ทัพ” ของเพื่อน ๆ เป็นตำรวจที่มีอุดมการณ์ แม้อุดมคติจะยึดหลักครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ แต่หน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ต้องมาก่อน
มี “น้องปรางค์” เป็นลูกแก้ว และ “คุณปุ้ม” เป็นเมียขวัญ ที่ทำให้เขามีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 5 มิถุนายน 2561 เขาและคู่หูในชุดจู่โจมนอกเครื่องแบบออกตรวจความเรียบร้อยในพื้นที่ กระทั่งพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยท่าทางมีพิรุธจึงเรียกตรวจค้น ปรากฏว่า รถจักรยายนต์คันดังกล่าวหลบหนี
ทั้งคู่ขี่จักรยานยนต์ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด ทว่าประสบอุบัติเหตุชนรถบริเวณกลางสี่แยกตลาดเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร บาดเจ็บสาหัส หน่วยกู้ชีพ โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี นำส่งโรงพยาบาลไม่นาน สิบตำรวจโทหนุ่มพ่อลูกอ่อนก็สิ้นใจ ท่ามกลางความอาลัยของผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน
แต่ที่เศร้าโศกหัวใจสลายเสียใจที่สุด คือ เมียรักและลูกน้อยไร้เดียงสา
คืนก่อนหน้าวันเดียวเมียของเขาเพิ่งฝันร้ายเป็นลางสังหรณ์
เธอคุยกับสามีทางไลน์ส่วนบอกถึงความฝันที่เห็นสามีตาย ความรู้สึกชัดเจน ใจหายไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น อยากให้ทำทุกอย่างให้ฟื้นขึ้นมา กลับมาคุยมาอยู่ด้วยกัน แต่ทำได้นอนฟังเสียงธรณีกรรณแสง มันเสียใจเกินบรรยายแทบไม่เป็นผู้เป็นคน
“ถ้าเป็นเรื่องจริงปุ้มคงเป็นบ้า คงร้องไห้ทุกวัน คงอยากตายตามกันไป ไม่อยากจะคิดเลย” เธอว่า
“ปุ้มรักคุณนะ รักมากเหมือนวันแรกที่เรารักกัน ถึงแม้ปุ้มจะพยายามไม่รักคุณก็ตาม เพราะปุ้มกลัวเสียใจ หากวันนี้ตายจากกัน คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ปุ้มรักคุณมากที่สุดในชีวิต ถ้าน้องปรางค์เป็นแก้วตาของปุ้ม คุณก็เป็นดวงใจของปุ้ม ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งคงอยู่ไม่ได้”
ฝ่ายชายพยายามปลอบไม่ให้คิดมาก เพราะเขาทำอะไรระวังตัวตลอด ไม่ต้องห่วง
“ทัพก็รักคุณกับลูกมากนะ” มันคงเป็นคำติดอยู่ในหัวใจของเธอไปตลอดชั่วชีวิต
ขณะที่บางคนเป็นชาวบ้านธรรมดานั่งกินข้าวกลับโพสต์เฟซบุ๊ก “สมน้ำหน้า” ฉลองเอาความสะใจ
อยากรู้เหมือนกันว่า ถึงตอนนี้จะสำนึกไหม !!!