จากแรงบันดาลใจของนายพลตำรวจเอก

มีบทความที่มองโครงสร้างใหม่ของนายพลตำรวจระดับรองแม่ทัพระบายความรู้สึกเกี่ยวกับอาชีพตัวเองไว้ที่อ่านแล้วสะท้อนความจริงในอาณาจักรโล่เงิน

เป็นเรื่องราวที่ “เขียนจากแรงบันดาลใจ” ของ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

… มีกลุ่มคนที่ไม่พอใจกับการปฏิบัติงานของตำรวจ ตะโกนเรียกร้องให้มีการปฏิรูปตำรวจ แต่หาได้มองไม่ว่า ตำรวจหรือโครงสร้างตำรวจมีปัญหาตรงไหน ที่พูดกันแบบหว่านแห เอาปัญหาของตัวบุคคลมาพูด มาตำหนิแล้วนำมาเหมารวมและมีการชักจูงสังคมให้มอง

องค์กรตำรวจเป็นองค์กรที่เลวร้าย เป็นอันตรายต่อประชาชนและเป็นอันตรายต่อองค์กรอื่น

ตำรวจ คือ พระเอก แต่ถูกผลักให้ไปเป็นผู้ร้าย

ผิดเล็กผิดน้อยก็จับ ถ้าอยู่ต่อหน้าตอนปฏิบัติหน้าที่เล็กน้อยมันก็ผิด เมื่อผิดก็ต้องจับ

เรามาดูเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจปฏิบัติการ เช่น หน่วยสืบ ชุดปฏิบัติการพิเศษ เป็นต้น ชุดเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่ 24 ชั่วโมง พวกเขาทำเพื่อใคร ถ้าไม่ใช่คนไทย ไม่ใช่ว่า เขาต้องการผลงาน แต่เขาทำหน้าที่เพื่อป้องกันเหล่าร้ายที่จะทำให้คนไทยต้องทุกข์ร้อน

ใครมันทำประชาชนเดือนร้อน มันต้องร้อนกว่า

ในยุคของ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นผู้บัญชาการ มีคดีใหญ่เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ปิดได้ทุกคดี หรือเกือบทุกคดี นั้นคือ การทำงานที่เสียสละของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยเพื่อประชาชน

ท่านผู้อ่านเคยสงสัยไหม คดีในนครบาลมีตำรวจอยู่ท่านหนึ่งจะอยู่ในเหตุการณ์คู่กายลูกน้องเกือบทุกคดีในเขตนครบาล พลตำรวจโทสานิตย์ มหาถาวร ไม่ว่าเกิดเหตุเวลาใด ท่านต้องมากำกับดูแลตลอด และจับได้ทุกคดี นายตำรวจท่านนี้ เป็น นายตำรวจรุ่น 34 ที่ใกล้จะเกษียณอายุราชการแล้ว อยู่เฉยๆ ก็ได้ตำเเหน่งก็ไม่ใช่น้อยๆ

แต่การทำงานของท่านหาที่ติได้ยาก ไม่ใช่คนแก่รอเกษียณ

คนที่ตำหนิตำรวจ อย่ามองแค่ความประพฤติของตำรวจบางคนบางส่วน ยกตัวอย่าง ถ้าเกิดเหตุระเบิดขึ้น ไม่ว่าที่ใดในเมืองไทย ยกเว้นตะเข็บชายเเดน เขตทหาร ยกเว้นถ้ามีประชาชนคนไทยบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ตำรวจต้องเข้าไปจัดการเรื่องคดี

ที่จะพูดถึงคือ ระเบิดในเมืองอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันนี้ ถ้าเกิดใกล้บ้านคุณใกล้ตัวคุณ คุณจะทำอย่างไร

ผมตอบให้ วิ่งหลบ วิ่งหนี เอาชีวิตรอด

แต่ตำรวจจะวิ่งเข้าใส่เพื่อดูว่าประชาชนบาดเจ็บไหมเสียชีวิตหรือเปล่า เข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ กันพื้นที่ที่อาจมีระเบิดลูกที่ 2 ตำรวจหน่วยหนึ่งเป็นตำรวจที่เอาชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของประชาชน

นั่นคือ ตำรวจหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD)

บางคนบอกว่าก็มันเป็นหน้าที่ “จะมีใครบังคับคนอื่นให้ไปตายแทนได้” เขาทำงานทำหน้าที่นี้ เพราะเขามีใจเพื่อประชาชน

ตำรวจหน่วยงานนี้ มีผู้ใดดูและติดตามการทำงานของพวกเขาบ้าง ตำรวจเหล่านี้ ทำงาน 24 ชั่วโมง เมื่อมีเหตุ เเม้เขากำลังป้อนข้าวลูก เขาก็ต้องวางช้อน ใส่เครื่องแบบแล้ววิ่งเข้าใส่ระเบิดที่ทุกคนวิ่งหลบ

กำลังรอรับลูกอยู่หน้าโรงเรียน เกิดเหตุระเบิด ต้องทิ้งลูกไว้ที่โรงเรียนก่อน ให้คนอื่นมารับแทน แม่อาจเลิกงาน 2 ทุ่ม ลูกตำรวจต้องรอการมารับกลับบ้านในแต่ละวัน เวลากลับบ้านไม่เท่าลูกชาวบ้าน

มันจึงไม่ได้มีปัญหา แต่เฉพาะตัวตำรวจอย่างเดียว ลูกตำรวจเองก็มีปัญหาทางสังคมไม่ต่างกัน เพราะพ่อแม่ขาดการดูแล

คุณเคยคิดไหม เวลาที่คุณขับรถไปรับลูกที่โรงเรียน คุณเห็นตำรวจยืนโบกรถอำนวยความสะดวกให้คุณและลูกอยู่หน้าโรงเรียน ใครไปรับลูกของเขาที่หน้าโรงเรียน ตำรวจยืนโบกรถอยู่หน้าห้างสรรพสินค้า ตำรวจเขามีเวลาอย่างคุณไหม

คุณรักลูกของคุณ เขาก็เช่นกัน

ปัญหาของตำรวจไม่ได้มีแค่มิติเดียว แต่เขาไม่มีเวลาทำอย่างคุณ มันจะหนักเข้าไปอีกกับการก่นด่า “รถติดเป็นแถวยาว ตำรวจไปไหน” “เขาไปรับลูกที่โรงเรียน” คุณจะด่าเขาอย่างไร รถติดมากมายตำรวจไปไหน “เขาพาลูกไปกินไก่ที่ห้างสรรพสินค้า” คุณจะพูดว่าอย่างไร

ตำรวจกับคุณมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่หน้าที่รับผิดชอบต่างกัน เมื่อเขาอยู่ในหน้าที่ เขาคือ ผู้พิทักษ์ คำคำนี้ช่างกว้างขวางนัก

ปัจจุบันเรามองตำรวจเป็นแบบเดียวกัน ไม่เเยกเเยะ

ตำรวจไม่ใช่ภัยของสังคม แต่พวกเขากำลังป้องกันตัวจากสังคม

RELATED ARTICLES