สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาร่างกฎหมายเพื่อให้จัดทำกฎหมาย มีผลบังคับใช้ให้ทันต่อสถานการณ์เสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2561
รายชื่อร่างกฎหมายที่พิจารณาเสร็จ
น่าสนใจตรง ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ….
ประกอบด้วย
ยุบเลิกกองบังคับการตำรวจรถไฟ ภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ โดยoeอัตรากำลังไปจัดสรรให้สถานีตำรวจและตำรวจภูธรจังหวัด
ยุบหรือเปลี่ยนแปลงกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้รับผิดชอบงานดังกล่าว
โอนงานอำนวยการความสะดวกในการจราจร การกวดขันวินัยจราจร และการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกให้แก่ กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และเทศบาลนคร
ให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดระบบบริหารงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อความเหมาะสมและความจำเป็นของแต่ละท้องถิ่นและชุมชน
แก้ไขโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน
กำหนดหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ และหลักเกณฑ์การประเมินเพื่อเลื่อนตำแหน่ง
แยกสายงานสอบสวนออกมาต่างหากเพื่อให้พนักงานสอบสวนมีศักยภาพและเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสอบสวน
กำหนดองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ
กำหนดหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจและคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ
รวมถึง ร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญา พ.ศ. ….
ให้บังคับใช้เฉพาะกระบวนการสืบสวนและสอบสวนที่ข้าราชการตำรวจรับผิดชอบ
พนักงานสอบสวนในทุกท้องที่ มีหน้าที่และอำนาจรับคำร้องทุกข์ หรือคำกล่าวโทษ ไม่ว่าเหตุจะเกิดขึ้นในท้องที่ใด
ทรัพย์สินสูญหายเช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่ โฉนดที่ดิน ทะเบียนสมรส หรือทะเบียนบ้าน ไม่ต้องแจ้งความ แต่ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ออกให้ใหม่ได้
ให้มีผู้ช่วยพนักงานสอบสวน (ข้าราชการตำรวจชั้นประทวน) เพื่อให้การสอบสวนดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วนสมบูรณ์
การบูรณาการการสอบสวนร่วมกันระหว่างสถานีตำรวจและตำรวจภูธรจังหวัด
กำหนดการคุ้มครองและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ต้องหา ผู้เสียหาย พยานบุคคล และประชาชนผู้เกี่ยวข้อง ดังนี้
-หากบุคคลสำคัญในพื้นที่ ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้บังคับบัญชาของพนักงานสอบสวน หรือหัวหน้าสถานีตำรวจได้รับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำความผิดอาญาในเรื่องใด ให้แจ้งข้อมูลเป็นหนังสือให้แก่พนักงานสอบสวน ซึ่งต้องนำมาพิจารณาประกอบการสอบสวน และรวมหลักฐานดังกล่าวไว้ในสำนวนด้วย
-ห้ามเจ้าพนักงาน หรือพนักงานสอบสวนนำตัวผู้ถูกจับมาออกแถลงข่าว หรือให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ยกเว้นการทำแผนประกอบการรับสารภาพเพื่อประโยชน์ในทางคดี
-ห้ามเจ้าพนักงาน หรือพนักงานสอบสวนเผยแพร่ภาพหรือแถลงข่าวผู้ถูกจับกุม เนื่องจากยังไม่ผ่านการตัดสินโดยศาลและไม่ให้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในสถานที่ที่ค้นซึ่งเป็นบ้านเรือนหรือสถานประกอบการ
ให้พนักงานอัยการเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการสอบสวนเพื่อความเป็นธรรมในคดีต่อไปนี้
-ความผิดอาญาที่มีอัตราโทษขั้นต่ำให้จำคุกตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป หรือโทษที่หนักกว่าในคดีเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ หรือคดีอื่นที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
-พนักงานสอบสวนต้องส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการภายในกำหนด (ก่อนวันครบกำหนดขังผู้ต้องหาครั้งสุดท้าย)
-พนักงานอัยการมีอำนาจสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม หรือจะไปร่วมสอบสวนเพิ่มเติม หรือสอบสวนเพิ่มเติมเองก่อนมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องก็ได้
รอเวลาเข้าคณะรัฐมนตรีเสนอผ่าน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นกฎหมายประกาศลงในราชกิจจา ให้มีผลบังคับใช้
สมใจทีมงาน “ผ่าร่างองค์กรสีกากี” ในยุคที่มี “ทัพทหาร”กุมอำนาจ !!!