ตั๋วของนาย

โล่ประกาศเกียรติคุณ รางวัลปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น

ใช่จะเป็นเครื่องการันตีความก้าวหน้าในเส้นทางชีวิตราชการตำรวจ

เมื่ออำนาจความชอบธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายถูกทำลายด้วยระบบ “คนของนาย” ที่ผ่องถ่ายมาหลายยุครัฐบาล

เฉกเช่นครั้งหนึ่ง พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา จังหวัดยะลา นายตำรวจ ตำนานนักรบขาเหล็กแห่งเทือกเขาบูโด เดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร หอบแฟ้มและประกาศเกียรติคุณผลงานปะทะคนร้ายมากมาย ไปเรียกขอความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายในบั้นปลายชีวิตต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

เป็นวันที่ “นักรบเสียน้ำตา” แบกหน้าไปถามหาความยุติธรรม

ลงเอยด้วยโศกนาฏกรรมสุดสะเทือนใจในวงการผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในเวลาต่อมา

น้ำตาไม่ได้ช่วยคนทำงานในชีวิตราชการตำรวจ หากไม่ได้อวด “ตั๋วของนาย” หยอดท้ายด้วย “น้ำลาย” ผสมด้วย “น้ำเงิน” เพื่อเลือกทางเดินความก้าวหน้าของตัวเอง

บทสรุปจากเรื่องราวของ “จ่าเพียร” กำหนดให้เป็น “บทเรียนนักรบแดนใต้” ภายใต้คำสรรเสริญเชิดชูเกียรติประวัติเป็นอนุสรณ์ความปวดร้าวฝังลึกอยู่ในความทรงจำของครอบครัว “ภูวพงษ์พิทักษ์”

ผู้กุมอำนาจไม่เคยรู้สึกตระหนักเห็นใจคนทำงาน

“กฎเหล็ก” มีเพียงเด็กของนายฝ่าด่านสบายได้ทุกสมัย  

ผันผ่านมาถึงยุคปัจจุบัน อำนาจเปลี่ยนมือ เสียงร่ำลือเรื่องการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง “แย่งชิงเก้าอี้ทอง” เพื่อสนอง “คนเป็นนาย” ยังมีกระจายต่อเนื่อง

อย่าทวงถามเรื่องใบเสร็จหลักฐาน

คงเหมือนนิทานหลอกสังคม ประโลมว่า “โลกสีกากีใบนี้” ช่างสวยสดงดงาม โปร่งใส่ บริสุทธิ์ ยุติธรรม

ทิ้งชะตากรรมไว้แก่ คนไม่มีเส้นสาย กลุ่มคนของนายต่างค่าย และไม่เลือกเดินสายเซ่นไหว้ในคฤหาสน์ของ “พี่ใหญ่” ไม่เอาใจพี่รอง และน้องเล็ก

วันนี้ไม่แปลกที่จะเห็นตำรวจทั่วประเทศบางส่วนหมุนเวียนนำรถหลวง ไม่ห่วงเวลาราชการ ไปบรรณาการบ้านหลังนั้นจนแทบจะแน่นคับซอย

ชะเง้อรอคอยต่อคิวขอตั๋ว

ยอมเกลือกกลั้วทิ้งงานในหน้าที่ พลีกายขอถวายหัวเข้ามั่วเป็น “คนของนาย” ส่งน้ำยาดับความกระหายเพื่อให้ “นาย” ชายตาเห็น

มันเป็นสัจธรรมสะท้อนความจริงวนเวียนอยู่ในองค์กรตำรวจ

และอย่ามาอวดว่าจะขอ “ปลดแอก” จากอำนาจลึกลับที่ครอบงำยุทธจักรสีกากีมานานหลายสิบปี

หมดค่ายนี้ก็จะเกิดค่ายใหม่ขึ้นมาทดแทน  

RELATED ARTICLES