วิกฤติขาดแคลนพนักงานสอบสวนเสียหายเป็นวงกว้าง
ผลพวงจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ใช้ มาตรา44 ยุบเลิกตำแหน่ง และเงินประจำตำแหน่งของพนักงานสอบสวน
ทุบทำลายแท่งพนักงานสอบสวน
“ปล่อยผี” พวก “เด็กนาย” ที่กระหายอยากออกไปหายใจเติบใหญ่เก้าอี้สายงานอื่น
ส่งผลทำให้ตำรวจขาดแรงจูงใจในการปฏิบัติงานสอบสวน ทำพนักงานสอบสวนทั่วประเทศขาดหายจำนวนหลายอัตรา
ก่อนหน้า พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล แก้ปัญหาด้วยการออกคำสั่งไปถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ให้ตรวจสอบคุณวุฒิการศึกษาของผู้ดำรงตำแหน่งสารวัตรทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามทุกนายในสถานีตำรวจทั่วประเทศ
ขณะที่ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมตัวแทนหน่วยต่าง ๆ สรุปข้อหารือปริมาณคดีของสถานีตำรวจ และเกณฑ์การกำหนดตำแหน่งผู้ทำหน้าที่สอบสวน
กระทั่งเกิดแนวคิดตัดโอนตำแหน่ง “สายงานปราบปราม” มาทำหน้าที่สอบสวนเน้นจากผู้มีคุณวุฒิการศึกษานิติศาสตร์ และมีใบประกอบวิชาสอบสวนเป็นอันดับแรก ไป อุดรูรั่ว การไหลของพนักงานสอบสวนที่แท่งโดนทุบทำลาย
หลายคนไม่อยากไป เพราะรู้ดีว่า งานสอบสวนหนักหนาสาหัสเพียงใด
เมื่อไม่ได้ตามเป้า ถึงเวลาก็ต้อง “เขย่ากระป๋องจับสลาก” เปิดฉาก “วัดดวง” ไม่ต่างจับ “ใบดำ-ใบแดง” แสดงความเป็นแมนเข้าสู่ค่ายทหาร
ทว่างานนี้เหมือนประหัตประหารคนไม่เต็มใจ
กลายเป็นคลิป “เสี่ยงทาย” ขยายเป็นภาพกระฉ่อนสะท้อนความเสื่อมวงการสีกากีในการคัดเลือกบุคลากรไปทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวน
เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
เมื่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่อนโลกโซเชียล พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำเป็นต้อง “หัวร้อน” ออกตัวแทนผู้ใหญ่
ระบุว่า สั่งให้มีการตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าตำรวจในคลิป คือ ตำรวจสังกัดใด ตามหลักแล้วการจะเป็นพนักงานสอบสวนได้ ต้องมีการสอบคัดเลือกมาตามหลักเกณฑ์
ไม่มีการจับฉลากเหมือนในคลิปแน่นอน
ถ้าเป็นเช่นกันคงต้องอ้อนวอนว่า คงเป็นเพียง “ภาพละคร” ฉากหนึ่งฝากไปถึงผู้บังคับบัญชา
ถึงเวลาแต่งตั้งโยกย้ายอย่าทำลายขวัญกำลังใจด้วยการจับ “ยัดไส้” ใส่ชื่อมั่วเพราะ “ไม่มีตั๋ว”
ผิดฝา-ผิดตัว ทำงานกันมั่วไปหมด !!!