มอตโต้นายพลสีกากีของปี 2018

ส่งท้ายปีหมา อย่าทิ้งให้ใครกลายเป็น “หมาจนตรอก” อย่าล้อมกรอบพวกไม่มีทางสู้รุมเป็น “หมาหมู่”

อย่าทำตัวเป็น “หมาข้างขา”คอยเลียแข้งเลียขา “ประจบสอพลอ”เจ้านาย

เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สมาคมผู้สื่อข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ตั้งฉายา “นายพลสีกากี” ประจำปี 2561 ตามธรรมเนียมปฏิบัติของคนแวดวงข่าวสายตำรวจมานาน

ทีมงาน COP’S Online จึงขอลองนำเสนอ “มอตโต้แห่งปี 2018″ ติดตัวบรรดานายพลคนดังหลายคนแบบหยิกแกมหยอก คัน ๆ ขำ ๆ เล็กน้อยบ้าง

เริ่มต้นตั้งแต่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ องค์กรใหญ่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมือง คอยพิทักษ์รักษาความปลอดภัยสร้างความสงบสุขแก่ประชาชน สุดท้ายพ่าย “ค่ายกล” ของอำนาจเผด็จการทางการเมือง กุมการบริหารราชการกระทั่งไม่เป็นโล้เป็นพาย

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความเรียบร้อยแห่งชาติงัดเอาคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 20/2561 เรื่อง มาตรการสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินให้มีความต่อเนื่อง ประกอบกับ มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557

คุมการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจทั้งหมดทุกบัญชี ให้ถือการดำเนินการนั้นเป็นการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญและเป็นที่สุด

ไม่สนหลักเกณฑ์การพิจารณาต่าง ๆ นานาก่อนหน้า

สมควรยก “มาตรา 44 ขยี้กฎเหล็ก” เป็นภาษิต ติดสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปี 2561

ส่วนแม่ทัพใหญ่เจ้าของรหัส “พิทักษ์1” อย่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บริหารหน่วยสู่ปีที่ 4 วางตัวได้เหมาะสมบท “ผู้นำ” ไม่แข็งกร้าวจนเกินไป หรือแสดงความอ่อนแอ ปวกเปียก แก้สถานการณ์ขับเคลื่อนงานเป็นที่รักแก่ตัวฝ่าย ท่ามกลางความร่วมมือของรุ่นพี่ รุ่นน้องและเพื่อนร่วมรุ่น

สมราคา “แป๊ะของพี่น้องและผองเพื่อน”

ขณะที่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เจ้าของรหัส “พิทักษ์ 2” เคย “เต็งจ๋า” ขึ้นตำแหน่งสูงสุดบนยอดหอคอยสำนักปทุมวัน แต่การเมืองพลิกผันมาถึงบั้นปลายชีวิตราชการ เจ้าตัวยังคงเดินสายทำงาน ไม่ปล่อยตัวรอวันปลดระวาง แม้รู้ทั้งรู้จะถึงทางตัน ต้องยกมอตโต้ประจำตัวให้ว่า  “ขยัน แม้ฝันไม่ถึง”

อีกรองแม่ทัพเข้าคิวเกษียณอายุราชการปีหน้า ถูกมองว่า “เรียกแขก” ตลอดในระยะหลัง ด้วยบุคลิกที่แข็งตามสไตล์ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ถึงไม่แคร์เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างจากชาวเน็ตหัวร้อน เลือกจะสอนข้อกฎหมายตามที่ตัวถนัดมาจัดการกับคดีที่รับผิดชอบ แม้บางทีขัดต่อกระแสสังคม

“ศรีวราห์ ตำราร้อน” น่าจะเหมาะเป็นภาษิตหรือมอตโต้ประจำตัวเขามากที่สุด

ด้าน พลตำรวจเอกมือปราบอย่าง “สุชาติ ธีระสวัสดิ์” จเรตำรวจแห่งชาติ ชื่อชั้นการทำงานสืบสวนปราบปรามไม่เป็นรองใครในยุคปัจจุบัน ผ่านประสบการณ์คดีสำคัญมาโชกโชนตั้งแต่อยู่กองกำกับการสืบสวนสอบสวนนครบาลพระนครเหนือ เจอมรสุมโหมกระหน่ำมาหลายลูก

แต่ลูกชายอดีตอธิบดีกรมตำรวจไม่เคยบ่นสักคำ เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานตามหน้าที่ ผลงานออกมาดีไม่เคยผิดหวัง ขอยกให้เป็น “ใหม่…หัวใจเกินร้อย”

สำหรับ “นายพลฮอตของปี” หนีไม่พ้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เดินสายขยายผลออกข่าวแทบรายวัน นอกจากขยันในเนื้องาน ยังขยันเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่เป็นที่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

อีกทั้งเป็นนายพลขวัญใจคนจนตามทวงหนี้เงินกู้ดอกเบี้ยโหด ตามสไตล์ “โจ๊กหวาน น้ำตาลขม”

นอกจากนี้ ยังมี พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กับมอตโต้ “ป้ายสุดท้ายที่ชายหาด” หลังยึดเก้าอี้คุมทัพชายทะเลภาคตะวันออกไม่ยอมขึ้นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นปีสุดท้ายก่อนเกษียณ

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เดินสายให้กำลังใจนักรบป่า แม้ไม่ใช่ลูกหม้อ แต่ชอบขึ้นเวทีจับไมค์ครวญเพลงติดเป็นภาพ “ตชด.ขอร้อง” ประกาศก้องชูศักยภาพหน่วยที่ปิดทองหลังพระมานาน

แม้ไม่ดุดันแบบคนเก่า แต่ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด คุมทีมลูกน้องเก่ามอบนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังและเด็ดขาด ทุ่มสรรพกำลัง เงินงบประมาณ และทุนในกระเป๋าส่วนตัวลุยเต็มเครื่อง สมเป็น “ป๋อขอจัดหนัก”

ฝากเจ้าพ่อนครบาล พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น นายพลที่หลายคนเกรงใจในความเป็น “ลูกผู้ชาย” แถมเข้าใจหัวอกตำรวจท้องที่ บ่อยครั้งชุดเฉพาะกิจนอกหน่วยบุกจับบ่อนพนัน หรือสถานบริการ เขาจะไม่ผลีผลามตื่นตูมเซ็นปากกา เด้ง 5 เสือโรงพัก ขอสืบสาวราวเรื่องข้อเท็จจริงก่อนว่า บกพร่อง ปล่อยปละละเลยหรือไม่

“บิ๊กบัวไม่กลัวนอกหน่วย” เหมาะเป็นมอตโต้ประจำตัวเขา

จากข่าวฉาวแห่งปีในวงการสีกากี พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย โกงเงินลูกน้องสหกรณ์ออมทรัพย์ของต้นสังกัดกว่า 229 ล้านบาท ชื่อของ “สุทิพย์หยิบสด” น่าจะปรากฏติดตามเป็นอนุสรณ์พฤติกรรมปู้ยี่ปู้ยำผู้ใต้บังคับบัญชา

“ผู้การเหินฟ้า” ขอยกให้เป็น พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ นายพลป้ายแดงกับหน่วยงานใหม่ ไม่ใช่เพราะก้าวกระโดดติดยศใหญ่ แต่เนื่องจากหัวใจความเป็นผู้นำเกินร้อย พาลูกน้องฝึกหลักสูตรเข้มข้น “ดิ่งพสุธา” ท้าเวหา เหินฟ้ากันเป็นว่าเล่น  

มี พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม ได้มอตโต้ “นายพลคนหนุ่ม” เข้ามาคุมตำแหน่ง ผู้การประเทศไทย ในวัยเพียง 43 ปี ดีกรีไม่ธรรมดา

ปิดด้วยที่น่าเห็นใจสุดไม่พ้น พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล คลี่คลายคดีสำคัญเมืองหลวงนับไม่ถ้วน เป็นนักสืบน้องรัก “ผู้นำสีกากี” กลับไม่ได้รับการพิจารณาขึ้นรองผู้บัญชาการตามที่หลายคนจับตา กลายเป็น “นักสืบตั๋วหลุด” ในนาทีสุดท้าย

ขออำลาส่งปีหมาเพียงเท่านี้ ขอให้มีความสุขรับปีใหม่ทั่วกัน

แต่ระวังจะไม่หมูอย่างที่คิด

 

 

RELATED ARTICLES