ยุคสมัยเปลี่ยน ผู้หญิงเป็นได้ทั้งผู้น้ำ-ผู้ตามที่ดี

“บุคคลต้นแบบ ที่เป็นแบบอย่างในการทำงาน นั้นก็คือ พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ของปวงชนชาวไทย ที่มีพระราชดำรัสในโอกาสต่าง ๆ เพื่อสอนให้ประชาชนของพระองค์ใช้ชีวิตด้วย ความพอเพียง ประหยัด และใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด หนูเองจึงนำคำที่พ่อหลวงสอนมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน อยู่บนความพอเพียง ปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ เหลือกินแล้วก็ขาย อีกทั้งต้องดูแลตัวเอง และครอบครัวให้มีความพอมี พอกิน พอใช้ ไม่หวังที่จะร่ำรวยแต่เพียงอย่างเดียว และดำรงตนอยู่บนความเสียสละตนเพื่อประโยชน์ของส่วนร่วม” นี่เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตของ อส.สาว “หนู” กัลยา บุตรกระมล สาวแกร่งของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนแห่งกำแพงเพชร

กว่าจะมาเป็น อส.สาวคนเก่ง เธอจบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนวชิรปราการวิทยาคม ต.นครชุม อ.เมืองกำแพงเพชร และจบระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ โปรแกรมวิชารัฐประศาสนศาสตร์ เธอบอกว่า อาชีพอาสารักษาดินแดน เป็นอาชีพที่มีเกียรติและภาคภูมิใจ เป็นอีกหนึ่งอาชีพข้าราชการที่เสียสละตนเอง เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เมื่อใดที่ทำงานแล้วเห็นคนในสังคมมีรอยยิ้ม ก็จะมีความสุขและมีรอยยิ้มตามไปด้วย โดยมีคติประจำใจตั้งแต่สมัยเรียนจนทำงาน ว่า “ความพยายามคือหนทางแห่งความสำเร็จ” เมื่อเป็นผู้ใหญ่ทำงานแล้ว ยิ่งทำงานรับราชการที่ต้องยึดปฏิบัติ คือ ”มุ่งมั่นตั้งใจ ใส่ใจกับทุกงานที่ทำ การทำหน้าที่ ต้องใส่ใจทุกรายละเอียดกับงานที่ได้รับมอบหมาย”

แน่นอนว่าคนเราไม่ว่าจะมีอาชีพหรือฐานะแบบไหน ย่อมมีปัญหาอุปสรรคน้อยใหญ่เข้ามาทดสอบชีวิต เช่นเดียวกับคุณหนู อส.สาวจอมแกร่ง ก็เคยมีปัญหา ฝ่าอุปสรรคมาเช่นเดียวกัน เจ้าตัวเปิดเผยการเอาชนะอุปสรรค การก้าวผ่านความท้อในแบบฉบับของเธอว่า เวลาที่เจออุปสรรคก็จะบอกตัวเองอยู่เสมอว่า อุปสรรคนั้นคือประสบการณ์ที่จะสอนให้เรารู้จักการแก้ไขปัญหา ขอแค่เพียงเราไม่ย่อท้อ และแน่นอนว่าไม่มีงานใดที่จะราบรื่นไปเสียทุกงาน เมื่อพบเจอกับอุปสรรค ต้องกล้าพอที่จะเสี่ยง เพื่อก้าวข้ามพ้นอุปสรรคไปให้ได้ นั่นหมายถึงว่า เมื่อใดที่มีอุปสรรคปัญหาน้อยใหญ่จะไม่หนีปัญหา แต่จะตั้งหลัก ตั้งสติ ค่อยๆแก้ปมชนปัญหา เมื่อเราผ่านมาได้ก็จะเป็นการเสริมภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจให้เข้มแข้งขึ้น

ก่อนมาเป็น อาสาสมัครรักษาดินแดน คุณหนูเคยเป็นผู้สื่อข่าวมาก่อน ใช้ประสบการณ์ทำงานในอดีตมาส่งเสริมงานในปัจจุบัน  เธอเล่าว่าจากประสบการณ์ดีๆที่ได้รับจากการเป็นอดีตผู้สื่อข่าวเคเบิ้ลทีวีในจังหวัดกำแพงเพชร และได้เปลี่ยนสายงานในการเป็นลูกจ้างชั่วคราวโครงการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ของหน่วยงานที่ทำการปกครองจังหวัดกำแพงเพชร กลุ่มงานการเงินและบัญชี และได้รับโอกาสในการสอบบรรจุแต่งตั้งเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน สังกัดกองร้อยบังคับการและบริการ กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดกำแพงเพชร จนถึงปัจจุบัน เป็นหน่วยงานที่ต้องทำงานด้วยใจ และเสียสละในการทำงานเพื่อสังคม ถือได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

หากพูดคุยกับผู้หญิงในยุคปัจจุบันคงหนีไม่พ้นความสวยที่มาพร้อมด้วยความเก่ง  อส.สาวผู้นี้มีมุมมองในเรื่องของความสวยผู้หญิงว่า ผู้หญิงสวยมีหลากหลายรูปแบบ นั่นคือ การเป็นผู้หญิงสวยต้องสวยทั้งภายในและภายนอก อย่าปล่อยให้ตัวเองหยุดสวย ผู้หญิงควรปรับปรุงบุคลิกภาพของเราตลอดเวลา และต้องคิดดี ทำดี พูดดี ทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย แบบนี้เรียกว่าสวยด้วยความเพอร์เฟค ส่วนผู้หญิงเก่ง ส่วนตัวแล้วมองว่า การเป็นผู้หญิงเก่งนั้นต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองอยู่เสมอ เพราะนั่นจะทำให้คุณกล้าคิดกล้าทำ และไม่ทำตัวให้เป็นภาระของคนอื่น สวยเก่ง อดทน และสามารถเป็นได้ทั้งผู้นำ และผู้ตามที่ดีด้วยค่ะ

เมื่อพูดถึงเป้าหมายหรือความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน บางคนพอใจแค่นี้ คนนี้พอใจแค่นั้น คนโน้นฝันอีกไกล ฯ แต่สำหรับคุณหนู เธออธิบายว่า ถ้าถามตอนนี้ประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง ต้องขอตอบว่า ก็อาจจะประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง เพราะว่าการก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ จากประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาสอนให้รู้จักความอดทน เสียสละ และบางงานที่อาจเหนื่อยจนท้อ แต่การที่จะประสบผลสำเร็จได้นั้น ต้องทำตนให้สนุกสนานไปกับงานที่ทำ และต้องเอาจริงเอาจังมุ่งมั่น เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ ความเพียรพยายาม จะนำพาคุณไปพบกับความสำเร็จในที่สุด สิ่งที่ขาดไม่เลยนั้นคือ ครอบครัวที่เราต้องช่วยกันประคองและให้กำลังใจกันอยู่เสมอ

อาสาสมัครสาวแห่งกำแพงเพชรยังฝากข้อคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิถีผู้หญิงไทยในยุคปัจจุบันกับสมัยก่อน ว่า สำหรับหนูแล้วหนูคิดว่ามีความแตกต่างกันค่ะ แต่ก็ไม่มาก เพราะผู้หญิงในยุคสมัยก่อนที่อาจถูกมองเป็นแค่แม่บ้านแม่เรือน แต่ในโลกยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้หญิงสามารถเป็นได้ทั้งผู้นำ และผู้ตามที่ดี ปรับตนเองให้เข้ากับยุค 4.0 และต้องขอบพระคุณทุกภาคส่วนที่ให้โอกาสแก่ผู้หญิงในการเข้ามามีบทบาทในหน่วยงานต่างๆ ผู้หญิงยุคนี้สวย เก่ง อย่างเดียวไม่พอ ต้องสตรองด้วยค่ะ

 

 

 

RELATED ARTICLES