โจ๊กไปแต่เหลือบไรยังเกาะอยู่

ตกลงไม่มีอะไรในทุ่งปทุมวันจริงหรือ

หลังจากเหตุการณ์ “ฟ้าผ่า” เด้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล พ้นเก้าอี้ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง เข้ากรุไปปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามคำสั่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี

ไม่กี่วันถัดมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ให้ย้าย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ไปเป็น ข้าราชการพลเรือน ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

ท่ามกลางกระแสข่าวมากมายถึงเหตุผลการ “ยุติบทบาท” หน้ากล้องของนายพลหนุ่มดาวรุ่งที่ถูกมองว่าอนาคตไกล ด้วยเพราะใกล้ขั้วอำนาจ

แถมถูกมองว่ามากบารมีเหนือ พล.ต.อ.

ไม่มีคำตอบจากผู้เกี่ยวข้อง  ไม่มีความรู้สึกจากเจ้าตัว มีแต่อารมณ์ของนักวิพากวิจารณ์บนแป้นคีย์บอร์ดต่าง ๆ นานา

ทิ้งน้ำหนักไปในเรื่องปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายทำลายระบบ ต้นตอของ “ปลาผิดน้ำ” ผุดกระแส “น้ำเงิน” เดินยอดสะพัดตัดตอน “คนทำงาน”

แต่ตราบใดที่ไม่มีใบเสร็จ ไม่มีผู้เสียหายร้องเรียน มันก็คงไม่ต่างบรรดา “ภูตผี” ที่หลายคนบอกว่า มี

ทว่าไม่มีใครเคยเห็น

ยิ่ง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาให้สัมภาษณ์การันตีให้ลูกน้องคนสนิทสุดสุดอย่าง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ถึงมรสุมรุมเร้าชีวิตราชการเที่ยวนี้

ยืนยันไม่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

“ไม่มีแล้ว จบแล้ว”

อีกทั้งปฏิเสธที่ตอบเหตุผลที่ย้ายนายพลฉายา “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” ไปเป็นข้าราชการพลเรือน

“ผมไม่รู้ หากอยากรู้ก็ไปถามเขาดูเอาเอง” พี่ใหญ่แห่งอาณาจักรตระกูลวงษ์สุวรรณตอบชัดเจนแบบไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นเรื่องลึกลับปริศนา

ถึงเวลามีแค่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเคาะมติพิจารณาแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 40 ข้ามเวทีมานั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

สับเอา พล.ต.ท.วิชิต ปักษา ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 37 ไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนแทน

ถือโอกาสบรรจุในวาระเดียวกับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ และผู้ทรงคุณวุฒิ เลื่อนยศเป็นการตอบแทนผู้ที่จะเกษียณราชการสิ้นปีงบประมาณ 2562 อีกจำนวน 53ตำแหน่ง

สุดท้ายคำถามค้างคาใจว่าย้าย “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” ทำไม

อาจไม่สำคัญเท่า “พวกเหลือบไร” ที่เกาะกินเก็บเกี่ยว “ค่าซื้อขายเก้าอี้” ที่ไร้ใบเสร็จในการแต่งตั้งโยกย้ายยังอยู่ได้อย่างสบายตัว

เตรียมจับขั้วออกอาละวาดหากินกันพุงกางสนุกสนานกับการสร้าง “เมล็ดพันธุ์พิษ” ต่อ

RELATED ARTICLES