เสียสละทำงานอยู่เบื้องหลังมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
วิสัญญีแพทย์ ผู้ที่มักถูกลืม ทั้งที่มีความสำคัญในการผ่าตัด การลดความเจ็บปวดของคนไข้ เป็นแผนกที่ขาดไม่ได้ไม่ต่างจากศัลยแพทย์
แต่แทบไม่ค่อยมีใครรู้จัก
เสร็จภารกิจตามหน้าที่ก็จะหันหลังหายหน้าออกจากห้องผ่าตัด
คนไข้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า คณะแพทย์เหล่านั้นเป็นใคร
เหมือนอดีตอาจารย์หมอท่านหนึ่งที่ปัจจุบันร่วมมาเป็น “วิสัญญีแพทย์จิตอาสา” ดูแลผู้ป่วยในโครงการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักใน ตามกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
จะว่าไปแล้วอาจารย์หมอท่านนี้เป็นจิตอาสาช่วยราชการตามหน้างานถนัดมาตลอด 10 กว่าปีที่เกษียณอายุแล้ว
พล.ต.ท.หญิง สุวัฒนา โภคสวัสดิ์ ข้าราชการบำนาญของโรงพยาบาลตำรวจ นับตั้งแต่เกษียณอายุราชการในปี 2546 ยังอาสากลับมาช่วยงานที่โรงพยาบาลเป็นวิสัญญีแพทย์สัปดาห์ละ 2 วันจวบจนปัจจุบัน
เธอเป็นประธานรุ่นนิสิตคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 2506 และเป็นประธานรุ่น 20 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกทั้งเป็นประธานที่ปรึกษาของสมาคมอุปกรณ์การแพทย์ไทย
สร้างคุณูปการไว้กับโรงพยาบาลตำรวจไว้มากมาย หลังจากจบแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อปี 2512 ก็เข้ามาทำงานเป็นแพทย์อยู่โรงพยาบาลตำรวจในปีถัดมา
ขณะนั้นโรงพยาบาลตำรวจมีอยู่เพียงไม่กี่ตึก แพทย์จำนวนแค่ 20-30 คนช่วยกันทำงานสู้กันมาเพื่อพัฒนาโรงพยาบาล
กลายเป็นความผูกพันที่อยู่เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
ร่วมกันหาทุนสร้างอาคารโรงพยาบาลและหาบุคลากรมาเพิ่มจนแทบจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของโรงพยาบาลคนหนึ่ง
เจ้าตัวเล่าว่า ขณะนั้นมีห้องผ่าตัดประมาณ 14 ห้อง จำนวนเตียงคนไข้ 400-500 เตียง แต่มีวิสัญญีแพทย์เพียง 3 คน รับมาก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะลาออกไปโรงพยาบาลเอกชน ที่เหลือต้องทำงานบริหาร งานบริการ อยู่เวรเกือบทุกวัน และยังช่วยทำงานเป็นปฏิคมให้สมาคมวิสัญญีแพทย์แห่งประเทศไทย ที่ต่อมาเปลี่ยนเป็นราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์อยู่ 9 สมัยเป็นเวลา 18 ปี
กระทั่งเกษียณราชการ เธอบอกว่า มีอาจารย์แพทย์หลายท่านชวนไปทำงานโรงพยาบาลเอกชน บางท่านชวนให้ไปช่วยบริหารโรงพยาบาล หรือจะทำวิสัญญีด้วยก็ได้
สุดท้ายเธอเลือกจะปฏิเสธ เพราะมีใจผูกพันกับโรงพยาบาลตำรวจ
เธอขอมาช่วยทำงานโรงพยาบาลตำรวจต่อทุกวันเป็นเวลา 3-4 ปี วันละ 8 ชั่วโมง ก่อนลดลงเหลือสัปดาห์ละ 2 วันจนถึงปัจจุบัน ยิ่งเมื่อมีงานจิตอาสาก็พยายามมาช่วย ถ้าไม่สามารถมาได้จะฝากเงินช่วย เป็นค่าใช้จ่าย ช่วยเหลือคนไข้ที่ขัดสน
“หมอมีความสุขมากเวลาเห็นเพื่อนร่วมงานมีความตั้งใจช่วยกันทำงาน และคนที่ได้รับการช่วยเหลือยกมือไหว้พวกเราท่วมหัวขอบคุณพวกเรา บางคนมาแล้วไม่มีเงินค่ารถกลับ พวกเราก็ช่วยกันรวบรวมเงินช่วยเหลือไป” วิสัญญีแพทย์วัยเกษียณระบายความรู้สึก
เธอตั้งใจว่าจะพยายามทำต่อไปจนกว่าจะหมดแรง