“จะสู้ต่อไป เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัว” พ.ต.ท.พิเชษฐ์ เสาแบน สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 ประกาศไว้
นายตำรวจหนุ่มมือดีของภาคเหนือจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 60 รุ่นเดียวกับ “หมวดตี้”ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ วีรบุรุษหนุ่มน้อยแห่งค่ายพลร่มนเรศวร
วันนี้ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ เสาแบน หรือรู้จักกันดีนาม “สารวัตรแย้” กำลังเผชิญมรสุมชีวิตที่เจ้าตัวเชื่อว่าเกิดจากผลพวงการทำงานปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่อย่างจริงจังตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ทำให้เครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดวางแผนจัดฉากทำลายเขาเป็นการล้างแค้น
ในทันทีที่มีพัสดุไปรษณีย์ระบุชื่อผู้ส่ง “พนมทวน แซ่หว่าง” ต้นทางจากภาคอีสานจ่าหน้าถึงผู้รับคือ นายพิเชษฐ์ เสาแบน ที่บ้านเลขที่ 14/3 หมู่ 7 ตำบลท่าน้ำอ้อย อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์
นางประชุม มากบุญ ผู้เป็นแม่ได้เซ็นรับพัสดุ ก่อนถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติดเข้าคุมตัวไปสอบปากคำ เมื่อเปิดกล่องพัสดุพบยาไอซ์ 50 กรัม ยาอีกว่า 50 เม็ด
มองตามหลักการของบรรดาตำรวจมากประสบการณ์ย่อมทะลุปรุโปร่งว่า หมากเกมนี้เป็นการ “จัดฉาก” วางงานกันอย่างเป็นระบบเพื่อยัดข้อหาเอาผิด “สารวัตรแย้”
ประเด็นอยู่ที่ว่า เบื้องหลังเป็นฝีมือของคนสีกากีพวกเดียวกัน หรือขบวนการค้ายาเสพติดศัตรูตัวฉกาจของนายพันตำรวจโทหนุ่ม
แต่สำหรับเขามั่นใจว่า เรื่องเกิดขึ้นเป็นการถูกกลั่นแกล้งจากเครือข่ายค้ายานรก
ประวัติของ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ เสาแบน เคยลงไปทำงานอยู่ในทีมสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนจังหวัดภาคใต้ เป็นชุดปราบปรามยาเสพติดของตำรวจภูธรภาค 9 ก่อนย้ายเป็นรองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ขึ้นสารวัตรกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร
ได้รับประกาศเกียรติคุณเป็น “ตำรวจดีเด่น” ของหน่วยในผลงานปราบปรามยาเสพติดจำนวนไม่น้อยเมื่อปี 2559
หลังจากนั้นขยับเป็นสารวัตรหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร และโยกไปอยู่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวประจำจังหวัดเชียงใหม่
เขาบอกว่า ทำงานกวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาค 6 มานาน จับกุมผู้กระทำความผิดมาหลายราย มีการจับตัวการใหญ่ติดคุกตลอดชีวิตมาแล้ว แต่ก็เคยถูกร้องเรียนจนโดนขังไป 7 วัน กว่าจะหอบหลักฐานมาสู้คดีแก้ต่างนานกว่า 3 ปี
รู้ตัวตลอดว่า กลุ่มพ่อค้ายาเสพติดพยายามจ้องเล่นงานสารพัด
กระทั่งมีมือดีส่งพัสดุยัดยานรกป้ายสีถึงบ้าน
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ยอมรับว่าเหนื่อยเหลือเกินกับการที่ต้องมาหอบหาหลักฐานต่าง ๆ มาต่อสู้ให้ตัวเองพ้นผิดอยู่คนเดียว โดยไม่มีใครมาช่วย” เจ้าตัววอนขอสื่อมวลชนให้ความเป็นธรรมด้วย
สารวัตรมือปราบยาเสพติดยังระบายผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว
ย้อนลำดับเส้นทางชีวิตผู้พิทักษ์สันติราษฎร์หลังพ้นรั้วสามพรานไปเป็นพนักงานสอบสวนนาน 2 ปี อยู่สืบสวนภูธรภาค 9 เป็นเวลา 5 ปี ระหว่างนั้นไปช่วยชุดสืบสวนคดีสำคัญที่ปลายด้ามขวานแล้วโยกมารับงานปราบยาเสพติดจับยาแก้ไอ ยาเสพติดลักลอบส่งทางไปรษณีย์หาดใหญ่ จังหวัดสงขลามาไม่รู้กี่ครั้ง
“แต่มีคนเชื่อว่า ผมสั่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ไปส่งที่บ้านที่มีตา 71ปี ยาย 61 ปี สองคน อีกคนนึง พิการมา 8 ปี กินยาจิตเวช”
บ้านชั้นเดียวหลังเล็ก ๆ ที่อบอุ่น ส่งในชื่อตัวเอง ให้แม่รับแล้ววางไว้ แล้วมีตำรวจมาขอให้เปิดกล่อง แล้วบอกเป็นยาบ้า
“ผมนี่ไม่สมควรจบจากสถาบันที่เรียนมา กราบขอโทษครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนผมมาด้วย ผมโง่สิ้นดี ทำงานมา 12 ปี ได้แค่นี้”
นายตำรวจหนุ่มตอกย้ำความรู้สึก
“ระวังมาสามปี ตายน้ำตื้นจริง ๆ คนเตือนมาเรื่อยจนถึงปี 61 คิดว่า จะจบแล้ว ยังไม่เลิก”
สุดท้ายแล้วใครอยู่เบื้องหลังวางงานจัดฉากป้ายสี พ.ต.ท.พิเชษฐ์ เสาแบน น่าจะเป็น กรณีศึกษา ให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด
หากวิปริตถึงขั้น เครือข่ายยานรก สุมแค้นแล้วกล้าใส่ไฟยัดยาหวังแจ้งข้อหาตำรวจ
ควรจะไปอวดผลงานในเมืองผี !!!