เหยื่อของความล้มเหลว

“ถ้าผมไม่ทำตามนี้ สังคมจะไม่รู้ความจริง” เขาระบายความอัดอั้นก่อนตัดสินใจฆ่าตัวตาย

ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ เคยดำรงตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรมาบอำมฤต อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร แต่โดนคำสั่งย้ายสายงานไปทำหน้าที่สอบสวน เพียงเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติขาดแคลนพนักงานสอบสวน

กระบวนการแห่ง “ความล้มเหลว” ในยุครัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ทุบทำลายแท่งการเจริญก้าวหน้าของสายงานสอบสวน

เล่นเอา “ปั่นป่วน” ไปทั้งระบบเกือบตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

“ผมนอนไม่หลับมาเป็นเวลา 2 เดือนกว่าแล้ว จนเป็นเหตุให้ตาและขอบตาดำคล้ำ สืบเนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนงาน ป. มาอยู่งานสอบสวน” เขาตัดพ้อ

“ผมทำไม่เป็น ขนาดคอมพิวเตอร์ยังไม่ชำนาญเลย”

ทว่าผู้เป็นนายกลับมองตรงกันข้าม

“ตำรวจต้องทำได้ทุกหน้าที่” ผู้ใหญ่บางคนคิดแบบนั้น มีส่วนให้เกิดแนวคิดวิปริตมองผิดว่า นายตำรวจที่จบนิติศาสตร์ต้องเก่งกาจด้านกฎหมายและมีความรู้เชี่ยวชาญได้ด้านสำนวนการสอบสวน

แค่ทบทวนตำรารื้อฟื้นวิชานิดหน่อยไม่น่าจะมีปัญหา

อัตวินิบาตกรรมของ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ ที่เจ้าตัวพ่นความหมักหมมของปัญหาจากคำสั่งโยกย้ายนำพาไปสู่ความตายในครั้งนี้ ดูเหมือนจะมีความหมายให้ผู้เป็นนายมองเห็นหายนะที่อยู่ตรงหน้า

หายนะที่เกิดจากการแต่งตั้งโยกย้ายทำลายขวัญกำลังใจ

ไม่ใช่แค่แสดงความเสียใจแล้วปล่อยผ่านเลยไปเป็นเรื่องชินตาและชาชิน

ประจวบเหมาะกับการคำสั่งระดับ รองสารวัตรถึงผู้บังคับหมู่ กำลังใกล้คลอดพอดี พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นั่งประธานประชุมพิจารณาแต่งตั้งออกมาบอกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติย้ำว่า เมื่อมีการกระจายอำนาจให้แต่ละกองบัญชาการมีอำนาจแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ ความเป็นธรรมที่ทุกคนต้องได้รับโดยที่ไม่ต้องร้อง

การเสียชีวิตของ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ ถือเป็นบทเรียนความบกพร่องของผู้บังคับบัญชาที่ พล.ต.ท.ปิยะยอมรับว่า เนื่องจากพนักงานสอบสวนในแต่ละพื้นที่มีไม่เพียงพอ สถานีตำรวจจำเป็นต้องปรับเกลี่ยรอง สารวัตรป้องกันปราบปรามไปทำหน้าที่งานสอบสวน

“แต่ด้วยความไม่ถนัดในหน้างานจึงเป็นความบกพร่องของผู้บังคับบัญชาส่วนหนึ่งด้วย” พล.ต.ท.ปิยะว่าตามความจริง

“อนาคตเหตุการณ์อย่างนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก” ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพยายามการันตีเมื่อการพิจารณาแต่งตั้งกระจายอำนาจกลับไปยังแต่ละกองบัญชาการแล้ว  “แต่ละหน่วย สามารถเลือกบุคลากรของตัวเองในการทำงาน โดยไม่มีการแทรกแซงการทำงาน”

คงได้แต่หวังว่าหายนะจากโศกนาฏกรรมในครั้งนี้จะส่งสัญญาณดีของการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่ต้องเผชิญภาวะเส้นสายทำลายขวัญคงทำงาน

ไม่ต้องเจอตำนาน “แก๊ง จ- อ-ก” คอยปอกลอกเฉือนเนื้อพวกเดียวกันเอาไปสังเวยผู้มีอำนาจ

ตั้งโต๊ะประกาศตีราคาค่าเก้าอี้ดีกว่าคุณค่าของคน

RELATED ARTICLES