ความจริงที่ต้องยอมรับ

ยุคสงครามข่าวสารต้องใช้วิจารณญาณในการบริโภคสื่อ

โทรศัพท์มือถือกลายเป็น “อาวุธมหาประลัย” ทิ่มแทงใส่ไข่โยนไฟใน “ข่าวลวง” ไว้เผื่อพวก “สมองกวง” แชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จ สร้างสูตรสำเร็จโลกยุคปัจจุบัน

ปั่นกันสนุกแป้นคีย์บอร์ด

เหตุการณ์ลอบวางระเบิดและวางเพลิงหลายจุดทั่วเมืองหลวงที่สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชนไม่เท่ากับสร้างความสับสนในข้อมูลข่าวสาร

ผู้ไม่มีส่วนรับผิดชอบ “มันปาก” อยากวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์ ทว่าหาพยานหลักฐานยืนยันน้ำหนักความน่าเชื่อถือแทบไม่มี

โดยเฉพาะแม่ทัพนายกอง “นอกรั้วปทุมวัน” ที่ขยันจ้อรายวัน ผสมพันธุ์กับบรรดานักการเมืองโยงเรื่องจับประเด็นไปต่าง ๆ นานา ทำเหมือนมี “ตาทิพย์” ส่องฉากเบื้องหลังขบวนการก่อความไม่สงบใจกลางกรุงเทพมหานคร

แถมมีเสียงสะท้อนไปถึงญาติผู้ต้องสงสัยเกรงเจ้าหน้าที่รัฐจะใช้อำนาจเกินขอบเขตเพื่อรีดข้อมูลยัดข้อกล่าวหา

เสมือนรูปแบบเก่าวัฒนธรรมเดิมที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เอามาใช้โจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่

พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย  ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องออกมาแจงข้อมูลรายละเอียดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันจากกรณีควบคุม 2 ผู้ต้องสงสัยชาวรือเสาะ จังหวัดนราธิวาสที่พัวพันลอบวางวัตถุคล้ายระเบิดบริเวณป้ายหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

กุญแจสำคัญที่จะไขไปสู่ความกระจ่างของเครือข่ายขบวนการลอบป่วนกรุงทั้งหมด

“ขอยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดของตำรวจนั้น เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม” พล.ต.ท.ปิยะบอกชัดเจน ระบุขณะนี้อยู่ในระหว่างการให้ข้อมูลปากคำที่เป็นประโยชน์ เพื่อที่จะสอบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำความผิดมาดำเนินคดี

ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับและสั่งการมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ยึดและปฏิบัติตามหลักกฎหมายโดยเคร่งครัด

“ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นว่าตำรวจจะดำเนินการด้วยความถูกต้อง เที่ยงธรรม และสามารถชี้แจงต่อสาธารณชนได้”

อย่างไรก็ตาม โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติฝากด้วยว่า ให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐเพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น หากมีข้อมูลเพิ่มเติมสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้นำเรียนให้ประชาชนทราบต่อไป

ทั้งนี้ทั้งนั้น ชุดดรีมทีมที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปกำชับควบคุมคดีด้วยตัวเองต่างมีชื่อชั้นและประสบการณ์งานสืบสวนสอบสวนคดีครบเครื่อง

ตั้งแต่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9  และ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

นายพลเหล่านี้จะขับเคลื่อนชิ้นงานไม่ให้ออกนอกลู่ตามกระแสโซเชียลรวมถึงผู้กุม “อำนาจต่างขั้ว” ที่พยายามเดามั่วถึงลากเอา “ความขัดแย้งทางการเมือง” เข้ามาเกี่ยวข้อง

ถึงเวลานั้นต้องยอมรับความจริง

ขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้เป็นเชื้อไฟที่ลุกลามขึ้นมาถึงเมืองหลวงนานแล้ว

 

 

RELATED ARTICLES