ความซื่อสัตย์เป็นอมตะนิรันดร์

ศุกร์สุดท้ายในชีวิตราชการของใครหลายคน

ขออนุญาตคัดลอกบทความเรื่อง “ความซื่อสัตย์เป็นอมตะนิรันดร์” ที่ พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 ถ่ายทอดมาจาก “ขจรศักดิ์” ผู้แปลและเรียบเรียงจาก 正能量家族

นักอ่านหลายคนอาจเคยผ่านตามาบ้างแล้ว แต่เชื่อว่า จำนวนไม่น้อยยังไม่เคยได้สัมผัสคมความคิดของนักปรัชญาแห่งแดนมังกร

คนหนึ่งชื่อ “ฉลาด” อีกคนชื่อ “ซื่อสัตย์” ทั้งสองคนนั่งเรือออกไปท่องทะเลด้วยกัน ทว่าโชคไม่ดี เจอพายุฝนลูกใหญ่กระหน่ำกลางทะเลจนทำให้เรือล่ม

บนเรือชูชีพมีที่นั่งเพียงคนเดียว

คนชื่อ “ฉลาด” เห็นท่าไม่ดีรีบถีบ “ซื่อสัตย์” ตกทะเลไปแล้วตัวเองก็ขี้นเรือชูชีพหนีไป

“ซื่อสัตย์”สำลักน้ำเกือบตาย

โชคยังดีที่ลอยคอมาถึงเกาะเล็กๆเกาะหนึ่ง พอเอาชีวิตรอดมาได้ ก็ตั้งตาคอยว่าเมื่อไหร่จะมีเรือผ่านมาแถวนั้น ไม่นานเกินรอ ก็ได้ยินเสียงเพลงเสียงดนตรีลอยมาแต่ไกล เป็นเสียงมาจากเรือลำหนึ่งที่กำลังวิ่งผ่านมาทางเกาะที่ตนอยู่ เมื่อเรือเข้าใกล้ สังเกตเห็นบนเรือปักธงโบกสะบัดว่า “ความสุข”

“ซื่อสัตย์“รีบตะโกนขอความช่วยเหลือ “ความสุขครับ ได้โปรดช่วยชีวิตเราด้วย เราชื่อซื่อสัตย์”

พอ “ความสุข” ได้ยินก็ตะโกนตอบไปว่า “ช่วยไม่ได้หรอก ถ้าหากเรามัวแต่เป็นคน ซื่อสัตย์ ชีวิตเราคงหาความสุขไม่ได้เลย ไม่เห็นเหรอว่า มีคนมากมายที่พูดความจริงเพราะความซื่อสัตย์ และความจริงเหล่านั้นจะย้อนกลับมาทำร้ายคนพูด” แล้ว “ความสุข” ก็หันหัวเรือห่างออกไป

ในเวลาต่อมา เรือ “ตำแหน่ง” ก็แล่นใกล้เข้ามา

“ซื่อสัตย์” รีบตะโกนขอความช่วยเหลือ พอ “ตำแหน่ง” รู้ว่าคนขอความช่วยเหลือคือ “ซื่อสัตย์” จึงรีบปฏิเสธไปว่า “ตำแหน่งของเราต้องห้ำหั่นกับผู้คนมากมายกว่าจะได้มา และเราจะก้าวต่อไปไม่หยุดยั้งไม่ว่าด้วยวิธีไหนก็ตาม หากเราต้องดำรงตำแหน่งด้วยความซื่อสัตย์ สงสัยเราจะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคนอื่นและคงไปไม่ได้ไกล”

“ซื่อสัตย์” มองดูเรือ “ตำแหน่ง” ค่อยๆห่างออกไป ต้องจำใจรอเรือลำต่อไปด้วยความหวัง

ไม่นานเกินรอ ก็เห็นเรือ “แข่งขัน” แล่นมาอีกลำจึงตะโกนแต่ไกลว่า “แข่งขันครับ เราคือ ซื่อสัตย์ช่วยมารับเราหน่อย”

พอ “แข่งขัน” รู้ว่าเป็น “ซื่อสัตย์” เลยตะโกนตอบไปแบบไม่ต้องคิดมาก “อย่าทำให้เราลำบากใจเลย ทุกวันนี้การแข่งขันในสังคมสูงมาก หากเรายังต้องเป็นคนซื่อสัตย์เราคงแข่งขันสู้คนอื่นไม่ได้แน่นอน

พอพูดจบ “แข่งขัน” ก็จากไปอย่างไม่ไยดี

ทันใดนั้น เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าก็ดังก้องทั่วท้องทะเล พายุลูกใหญ่โหมกระหน่ำอย่างแรง “ซื่อสัตย์” ที่กำลังอยู่ในอาการหมดหวัง สับสนกับจุดยืนของชีวิตตน ก็ได้ยินเสียงเรียกอย่างปราณีว่า “ลูกเอ๋ย มาขึ้นเรือเราเถอะ”

พอ “ซื่อสัตย์” มองหาไปยังต้นเสียงจึงได้รู้ว่าเป็นผู้เฒ่าแห่ง “กาลเวลา”

เมื่อขึ้นเรือเสร็จ เขาถาม “กาลเวลา” ว่า “ทำไมท่านช่วยเรา”

ท่านผู้เฒ่าตอบด้วยรอยยิ้ม

“มีแต่กาลเวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ให้รู้ว่า ความซื่อสัตย์มีความสำคัญแค่ไหน”

บนเส้นทางที่กำลังแล่นเรือกลับบ้าน “กาลเวลา” ชี้ให้มองดู “ฉลาด” “ความสุข” “ตำแหน่ง” และ “แข่งขัน” ทั้งหมดล้วนตะเกียกตะกายอยู่กลางทะเลที่กำลังจะจมหายไปในน้ำ

ท่านผู้เฒ่าถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า

หากไร้ซึ่งความ “ซื่อสัตย์” …… “ฉลาด” ก็จะทำร้ายตัวเองในที่สุด “ความสุข” จะอยู่ได้ไม่จีรัง “ตำแหน่ง”อยู่ท่ามกลางเสียงสาปแช่ง “แข่งขัน” ก็จะเป็นได้แค่ผู้พ่ายแพ้

สุดท้ายแล้ว มีแต่ความ “ซื่อสัตย์” เท่านั้นที่จะเป็นความอมตะนิรันดร์

 

RELATED ARTICLES