ขึงขังขานรับกันราวกับเป็นวาระแห่งชาติ
สุดท้ายหายกลายเป็นคลื่นกระทบฝั่งในเหตุการณ์กลุ่มที่อ้างคดีละเมิดลิขสิทธิ์ “ตีกิน” เหยื่อไม่รู้อีโหน่อีเหน่ของขบวนการ “นักบิน” โกยเงินไปจำนวนมากมายมหาศาล
ทำกันเป็นเรื่องชินมือ ถืออำนาจข่มขู่พ่อค้าแม่ขาย กระทั่งกลายเป็นข่าวโด่งดังเมื่อพลาดพลั้งไปล่อซื้อเอาผิด “กระทงลายการ์ตูน” ของเด็กสาววัยเพียง 15 ปีที่ภาคอีสาน
ผู้ปกครองเด็กสาววัย 15 เหยื่อ ขบวนการรีดลิขสิทธิ์ลั่นเอาผิด กลุ่มคนล่อจับกระทงการ์ตูนดังญี่ปุ่นถึงที่สุด
มีทั้งนักการเมือง นักกฎหมาย ทนายความ และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ลงไปแสดงตัวจะเข้าช่วยเหลือ ประกาศ “กวาดล้าง” ขบวนการแอบอ้างตีกันลิขสิทธิ์อย่างจริงจัง
ยกเป็นกรณีศึกษาหวังจัดระเบียบตัวแทนลิขสิทธิ์เถื่อน
ยกคำพิพากษาศาลฎีการวมถึงระเบียบปฏิบัติว่าด้วยการจับกุมผู้ละเมิดสิทธิ์กันยาวเป็นหางว่าว
เอาเข้าใจจริงทำไปทำมาไม่ต่าง “ลิงหลอกเจ้า” ราวกับมีผลประโยชน์แอบแฝงร่วมอยู่เบื้องหลังขบวนการอิทธิพลเหล่านี้
ทั้งที่ก่อนหน้า พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เป็นต้นเรื่องมอบหมายให้ พ.ต.อ.ดิเรก ปลั่งดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เป็นหัวหน้าควบคุมคดีที่เกิดขึ้นกับการล่อจับกระทงเด็กสาววัย 15 ปี มีพนักงานสอบสวน 21 นาย ฝ่ายสืบสวนอีก 16 นาย
ส่วน พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมาไปช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นเวลา 30 วัน
มี นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะกำกับดูแลกรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจเหยื่อ
ขานรับจะจัดการตัวแทนลิขสิทธิ์เถื่อนที่อาศัยช่องว่างกฎหมายไปข่มขู่คนทำมาหากินแบบไม่ถูกต้องอีกต่อไป
เนื่องจากพฤติกรรมของขบวนการดังกล่าวเข้าข่ายความผิดข่มขู่กรรโชกทรัพย์
ผ่านมาถึงวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้าออกหมายจับดำเนินคดีใครสักรายเดียว
ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพิ่งเรียกประชุมร่วมตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา พนักงานอัยการ ตำรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทางการจับกุมคดีละเมิดลิขสิทธิ์ให้ชัดเจน
ล้อมคอกตอกย้ำปฏิบัติการ “ฟอกขาว” พฤติกรรมสีดำของเหล่ากลุ่มขบวนการเถื่อน
ความจริงปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ได้อยู่การละเมิด หรือไม่ละเมิดลิขสิทธิ์
แต่มันอยู่ที่แก๊งหากินกับลิขสิทธิ์เที่ยวออกอิทธิฤทธิ์ข่มขู่รีดเงินเพลิดเพลินไปทั่วประเทศ โดยมีผู้รักษากฎหมายบางพวกร่วมขอเอี่ยวด้วย
