“ครอบครัวตำรวจต้องเสียสละมากๆ”

ผ่านเรื่องราวชีวิตกับความคิดที่ผิดพลาดจนเกือบลาโลก

วันนี้ “สนุ๊ก” วรางค์อร เดชารชตะ ลูกสาวคนโตของ พ.ต.อ.เดชเดชา เดชารชตะ หรือชื่อเดิม “ปรีชา นำหาโชค” อดีตผู้กำกับการฝ่ายบริการศึกษา ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 9 หันมาเป็นสะพานบุญช่วยเหลืองานการกุศลแก่ผู้ยากไร้ อีกทั้งรับงานแต่งหน้าศพฟรีไม่เอาเงินสักบาทเดียว

เธอเกิดจังหวัดสุรินทร์ ด้วยความที่พ่อเป็นตำรวจต้องย้ายตำแหน่งตลอด ทำให้ต้องไปอยู่กับย่าที่จังหวัดราชบุรี พ่อเป็นคนราชบุรี ตอนเด็กก็ด้วยความที่คุณพ่อต้องย้ายตลอด ก็เลยต้องไปอยู่กับคุณย่า ที่ราชบุรี กลายเป็นปมน้อยเนื้อต่ำใจตั้งแต่วันเด็กว่า พ่อแม่ไม่รัก เพราะมีน้องอีก 2 คนได้ย้ายตามไปอยู่กับพ่อแม่ทุกที่ ทิ้งเธอไว้คนเดียว

ถึงวัยเรียนเปลี่ยนโรงเรียนบ่อยก่อนด้วยความที่เกเรทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา ทะเลาะวิวาทกับเพื่อนในโรงเรียน สนุ๊กเล่าความรู้สึกครั้งนั้นที่ฝังใจมาตลอดว่า พ่อแม่ไม่รัก เลยพยายามเรียกร้องความสนใจ ปล่อยตัวเป็นเด็กเกเร อยากให้พ่อแม่เสียใจ ถึงย้ายโรงเรียนบ่อย ยิ่งช่วง ม.4-ม.5 ย้ายประมาณ 3-4 โรงเรียน

กระทั่งเกิดจุดเปลี่ยนตอนอายุ 17 หลังทะเลาะกับพ่อที่ตัวเองกลับบ้านเย็น โดนพ่อตีครั้งแรกในชีวิตเลยตัดสินใจหนีออกจากบ้าน และวางแผนกินยาล้างห้องน้ำ คิดว่าล้างท้องก็หาย ก็ให้เพื่อนพาส่งโรงพยาบาล ผลสุดท้ายเกือบตาย ต้องพาเข้ามารักษาตัวด่วนที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

“หนูกินไป 3 อึก แสบคอมาก มีเขียนจดหมายลาตายไว้เพื่อให้ดูสมจริง แต่ไม่ตั้งใจจะฆ่าตัวตาย มาถึงโรงพยาบาลผ่าตัดไม่ได้ ต้องรอให้หลอดอาหารมันตีบถึงที่สุด กลืนอะไรไม่ได้ บ้วนน้ำลายอย่างเดียว กลอกอาหารทางหน้าท้อง นอนอยู่ 6 เดือน รอผ่าตัดเอาหลอดอาหาร กระเพาะต้องยกทิ้งหมด เอาลำไส้ใหย่มาต่อที่คอแทนหลอดอาหาร พักฟื้นอยู่ 2 ปีถึงกลับมากินอะไรได้ปกติ” ลูกสาวคนสวยของผู้กำกับศูนย์ฝึกอบรมชายแดนภาคใต้รำพันนาทีชีวิต

เธอยอมรับว่า คิดผิด ทำให้ต้องมานอนทรมานกว่า 2 ปี ด้วยอารมณ์แบบเด็ก ๆ พอป่วยก็เริ่มเปลี่ยนมุมอง เริ่มเห็นใจคนป่วย เพราะเราเคยกินอะไรไม่ได้เป็นปี ออกมาก็ชอบซื้อของให้คนป่วย ให้ขอทานเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เราก็ไม่ได้มีเงินเยอะ กระทั่งเรียนจบประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ไปทำงานเป็นพริตตี้ เดินแบบ ประกวดนางงาม

เกิดมรสุมอีกครั้งเมื่อเลิกกับแฟน หันไปถือศีลสงบจิตใจอยู่วัดตรีญาติ ราชบุรี 3 เดือน สนุ๊กบอกว่า เริ่มซึมซับการเป็นผู้ให้ ไปทำบุญโรงทาน ออกเยี่ยมบ้านผู้ป่วย จนไปร่วมพิธีล้างป่าช้า คิดว่า อยากทำอะไรเกี่ยวกับศพให้มากขึ้น เลยศึกษาเรื่องการแต่งหน้าศพ และทำมาตั้งแต่ปี 2558 เป็นศพที่ญาติติดต่อมา เราไปหมด

เจ้าตัวเคยเดินทางไปแต่งหน้าศพ แวว จ๊กมก ดาวตลกน้องสาวหม่ำ จ๊กมก อาคม สังวริบุตร พ่อของอดีตพระเอกไพโรจน์ สังวริบุตร รวมถึง พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตมือปราบคนดังที่เป็นเจ้านายเก่าของพ่อทุกรายที่เธอแต่งไม่ได้คิดเงินญาติ  ถือว่าเป็นการทำบุญ อยากแต่งหน้าศพให้ดูเหมือนคนนอนหลับธรรมดา ดูดี ทำแล้วสบายใจ ยิ่งเวลาเห็นญาติรู้ดี เธอก็รู้สึกดีตามด้วย

   “หนูจะเน้นแบบว่า ให้ญาติมีส่วนร่วม เน้นว่า ญาติชอบแบบไหน หนูก็จะแต่งแบบนั้น หลักๆ คืออยากเยียวยาจิตใจญาติ ให้ญาติเลือกทาปากแบบไหน หนูจะแต่งให้ดูแบบเป็นตัวตนของคนๆ นั้น ไม่ใช่แต่งตามใจเรา ไม่ได้แต่งเพื่อความสวยงามตามความรู้สึกของเรา แต่แต่งเพื่อญาติ” เธออธิบายงานที่ทำกระทั่งกลายเป็นที่มาของฉายานางฟ้าแต่งหน้าศพ “ถามว่าจะทำถึงเมื่อไหร่ ก็คงเท่าที่เราไหว อีกอย่างหนูกำลังมีแผนที่จะโกนหัวบวชสักพรรษา มีความตั้งใจมาหลายปีแล้ว แต่ติดงาน ติดธุรกิจ ก็ต้องดูว่า เวลาจะลงตัวหรือเปล่า”

นอกจากรับเดินสายแต่งหน้าศพตามที่ญาติร้องขอมาแล้ว สนุ๊กได้ใช้เวลาว่างไปเยี่ยมบ้านผู้ป่วย ออกโรงทาน เป็นสะพานบุญบอกบุญ นอกเหนือจากงานประจำที่ทำ คือ ขายของออนไลน์ จำพวกเกลือสีฟันเป็นรายได้เลี้ยงตัวเอง

สำหรับความผูกพันพ่อลูกที่เคยมีปัญหากันตั้งแต่เด็ก เพราะน้อยใจพ่อไม่ค่อยได้ดูแล เธอสารภาพว่า เพิ่งมาเข้าใจตอนที่นอนอยู่โรงพยาบาล หลังจากเหตุการณ์นั้นทำให้เราคิดได้ว่า พ่อแม่เสียใจและเป็นห่วงเรามากขนาดไหน ถามว่า ยังโกรธไหม เราลืมความรู้สึกตรงนั้นไปแล้ว ไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา “ตอนเด็กๆ คุณพ่อก็จะพาไปเที่ยว แต่เราเกเร พอพ่อตี แล้วหนูไม่เคยโดนตี โดนตีครั้งแรก อารมณ์ความรู้สึกว่าอยากเรียกร้องความสนใจมากกว่า ด้วยความเจ็บป่วยวันนั้น ทำให้หนูมาเปลี่ยนความคิด มารู้ว่าจริงๆ แล้ว พ่อแม่รักเรา”

สนุ๊กว่า ความสัมพันธ์พ่อลูกกลับมาดีขึ้น แม้ระยะหลังพ่อยังย้ายไปภาคเหนือบ้าง ลงใต้บ้างก็จะมีเวลากลับมาหาที่ราชบุรี ไปทำบุญด้วยกัน แต่จะเป็นห่วงเราเรื่องการเดินทางไกล กังวลว่า เราต้องเสียเงิน ยอมรับว่า ความที่พ่อเป็นตำรวจจะไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละ  ถึงมาเข้าใจตอนหลังว่า การที่พ่อไม่พาเราไปด้วยทุกที่เพราะความจำเป็น หวังอยากให้ลูกเรียนโรงเรียนดี ๆ ไปต้องย้ายมาลำบากตามต่างจังหวัด

“เด็ก ๆ หนูไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องเอาหนูไปไว้กับคนอื่น พอโตมา เข้าใจแล้วว่า ครอบครัวตำรวจต้องเสียสละมากๆ เชื่อว่า ลูกตำรวจหลายคนน่าจะมีความรู้สึกเหมือนหนูนะกับการที่คุณพ่อต้องย้ายไปทำงานหลายที่  แต่คุณพ่อก็หวงลูกสาวมาก ไปไหน ทำอะไรจะแบบห้ามไปหมด ขนาดกินก๋วยเตี๋ยวหน้าโรงพัก ไปนั่งเล่นกับเพื่อนหน้าโรงพักก็ไม่ได้  6 โมงเย็นต้องเข้าบ้าน คงเป็นเพราะคุณพ่อเป็นตำรวจที่รู้ถึงภัยอันตรายมากกว่าใคร” สนุ๊กทิ้งท้าย

 

RELATED ARTICLES