“ไม่คิดว่าอาชีพผู้ประกาศข่าวจะเป็นงานก็ต้องใช้สมองขนาดนี้”

ผู้ประกาศสาว “ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี” 

“นุ่น”ชุติมา พึ่งความสุข ชาวปทุมธานี เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสตรีวิทยา 2 แล้วศึกษาต่อปริญญาตรี คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ฝันอยากเป็นผู้ประกาศข่าวพระราชสํานัก เนื่องจากสมัยเด็ก แม่ชอบเปิดทีวีดูข่าวพระราชสำนัก ได้ดูและฟังอยู่ประจำจึงเกิดความปลูกฝังในวัยเด็กว่า สักวันจะเป็นผู้ประกาศข่าวให้แม่ได้ชม

“นุ่นเป็นคนรักการแสดงออกค่ะ ไม่ว่าจะ ร้อง เล่น เต้น หรือรำไทย หากมีกิจกรรมอะไรที่เป็นการแสดงออกมักจะเข้าร่วมเสมอตั้งแต่สมัยเด็กๆ จนความสามารถเริ่มชัดเจนมากขึ้นในช่วงเรียนมัธยม เนื่องจากที่โรงเรียนจะมีกิจกรรมให้ทำเยอะ จนมาค้นพบว่า ตัวเองมีทักษะด้านการพูด เนื่องจากขณะเรียนมัธยมตอนปลายมักจะมีการรายงานหน้าชั้นเรียน ส่วนใหญ่แล้วเพื่อนๆจะนำเสนอด้วยการนำหนังสือไปอ่านให้ฟังแบบง่ายๆ นุ่นคิดว่าจะพรีเซนต์ยังไงให้น่าตื่นเต้น เป็นที่สนใจกับสิ่งที่เราจะนำเสนอ ก็เลยเปลี่ยนวิธีการนำเสนอ ด้วยการสมมติบทบาทของตัวละครขึ้นมา อาทิ เป็นพิธีกร เป็นผู้ประกาศข่าว เป็นดาราบ้าง ใช้บทบาทตามตัวละครที่เหมาะสมกับเนื้อหาที่จะอ่าน หรือช่วงนั้นดาราใครฮอต จะสวมบทบาทเป็นคนนั้นเพื่อให้การนำเสนอเป็นที่สนใจและน่าฟัง”

เธอทำบ่อยๆ จน โสภิต พิทักษ์ อาจารย์วิชาภาษาไทย เห็นแววว่า เธอจะเป็นผู้ประกาศข่าวได้ เลยให้ลองไปเป็นพิธีกรของโรงเรียนดูว่า จะสามารถทำได้หรือไม่ ชุติมายอมรับว่า ตื่นเต้นมาก และเป็นตัวชี้วัดว่าเรามีคุณสมบัติการเป็นพิธีกรมากน้อยแค่ไหน วันแรกได้รับคำชมจากคณะอาจารย์หลายคน และได้เป็นพิธีกรตั้งแต่นั้นมา กลายเป็นเวทีแรกที่ทำให้เราได้ฝึกฝนการเป็นพิธีกร มีอาจารย์คอยส่งเสริมสนับสนุนให้ไปแข่งขันกับโรงเรียนอื่นๆ อาทิ การพูดสุนทรพจน์ และการพูดเนื่องในโอกาสต่างๆ และหลังจากเลิกเรียนอาจารย์จะเป็นติวเตอร์ทักษะการพูดให้จนจบชั้นมัธยมศึกษา

กระทั่งเรียนมหาวิทยาลัย เธอสมัครเข้าประกวดตามเวทีต่างๆ อาทิ  Her World Idol และ Miss Thailand เข้ารอบสุดท้ายเกือบทุกเวที ทว่าไม่ถึงดวงดาว เจ้าตัวสารภาพว่า มีท้อบ้าง แต่เพื่อจะให้เป็นบันไดก้าวไปสู่ผู้ประกาศข่าว เราต้องสู้ เพราะสมัยนั้นยังไม่มีโครงการรับสมัครผู้ประกาศข่าวโดยตรง จะใช้เวทีต่างๆ เหล่านี้เข้าวงการแทน มีเพื่อนๆ ให้กำลังใจอยู่เสมอ จนเรียนอยู่ ปี 3 เทอม 2 รุ่นพี่มาบอกว่า ช่อง 9 เปิดรับสมัครผู้ประกาศข่าวหน้าใหม่ ก็ลองสมัครด้วยการอัดคลิปเดโมการอ่าน ส่งไปให้ กระทั่งถูกเรียกไปสัมภาษณ์

“วันนั้นก็มีคนสวยๆหล่อๆเยอะมากเกือบจะร้อยคนได้ แต่ละคนมีทักษะการอ่านที่ดีมาก ทางช่องรับแค่ 4 คน นุ่นเองก็โชว์ความสามารถอย่างเต็มที่ ผ่านการคัคเลือกเป็น 1 ใน 4 คน ให้เก็บตัวฝึกซ้อม มีพี่เลี้ยงคอยแนะนำใช้ระยะเวลาการเทรนด์ประมาณ 3 เดือน เนื่องจากยังไม่มีใครมีประสบการณ์เป็นผู้ประกาศหน้าใหม่ทั้งหมดว่า ก่อน-หลัง การอบรมมีพัฒนาการมากน้อยแค่ไหน พร้อมวิเคราะห์อุปนิสัยส่วนตัวและการเข้าสังคม จนได้เป็นผู้ประกาศข่าวของช่อง 9 ทั้งยังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 นุ่นต้องเรียนไปทำงานไป ก็มีท้อบ้าง ไม่คิดว่าอาชีพผู้ประกาศข่าวจะเป็นงานก็ต้องใช้สมองขนาดนี้ ตอนแรกคิดว่า แค่หยิบกระดาษมาอ่านให้คนฟัง แต่มันไม่ใช่เลย เราต้องทำความเข้าใจก่อน ทบทวนหลายครั้ง ต้องรู้มากกว่าการพูดตามสคริปต์ ต้องรู้จักการแก้ไขเฉพาะหน้า มีไหวพริบที่ดี ต้องใช้ศาสตร์หลายด้านมาก” ผู้ประกาศสาวเล่าถึงเส้นทางก้าวสู่ฝันที่เป็นจริง

ปัจจุบัน ชุติมารับหน้าที่หลักอ่านข่าวพระราชสำนัก พร้อมอ่านข่าวเศรษฐกิจ Biz Time และพิธีกรรายการ บ่ายนี้มีคำตอบ เธอระบายความรู้สึกในห้วงประเทศสูญเสียพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วยว่า คนไทยทั้งประเทศคงโศกเศร้าเสียใจไม่น้อยไปกว่าเราแน่นอน เราอ่านข่าวพระราชกรณียกิจของพระองค์มากมาย ได้ไปตามโครงการพระราชดำริ ดูศูนย์ศึกษาพัฒนาต่างๆที่เป็นโครงการส่วนพระองค์ ทำให้เราได้ซึมซับสิ่งต่างๆแบบนี้จนรู้สึกว่า โชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดเป็นคนไทย พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างในหลากหลายอาชีพของคนไทย

ทิ้งท้าย เธอฝากถึงน้อง ๆ ที่อยากเป็นผู้ประกาศข่าว หรือนักข่าวด้วยว่า ขอให้กล้าสักนิดชีวิตจะรุ่ง เป็นคติประจำใจติดตัวเรามาตลอด เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่อยากจะเป็นอะไร อย่าดูถูกตัวเอง ลองลงมือทำก่อน จงศรัทธาในอาชีพของตัวเองแล้วมันจะส่งผลที่ดีต่อตัวเราอย่างแน่นอน

RELATED ARTICLES