เมื่อน้ำตาลมันมีรสขม

กระสุนที่รัวสาดใส่รถเปล่า กลายเป็นเรื่องราวบ่ง “รอยร้าว” ของรุ่นพี่-รุ่นน้องยากจะประสาน

 “พี่แป๊ะ” ของ “น้องโจ๊ก” โลกไม่สวยอีกต่อไป

รส “หวานเจี๊ยบ” ในอดีตมันกำลังกรีดความรู้สึกมายังปัจจุบัน ราวจะประกาศห้ำหั่นเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมานาน

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เคยมองเห็นในฝีมือของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ยามเผชิญมรสุม “ตกอับ” โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากคนรอบข้าง อุ้มกระเตงขึ้นมาอยู่เคียงข้างกาย

ไม่คิดว่าสักวันรุ่นน้องคนนี้จะคิดร้าย ลั่นวาจาท้าทาย สนั่นยุทธจักรสีกากี

ถึง…..พี่แป๊ะ

“ชื่นชมในความเป็นพี่ ยกย่องในหน้าที่ผู้บังคับบัญชา”

ครับ….คงทราบกันว่าข่าวคราวที่ออกมาเมื่อปีก่อน พูดกันถึงตำรวจ ยศ พล.ต.ต. ใหญ่กว่า พล.ต.อ. ซึ่งแน่นอนว่า สื่อหลายสำนักชี้นำว่า

 พล.ต.ต.คนนั้นคือผม …” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์เคยรำพันผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงรุ่นพี่ที่รัก

 “พี่แป๊ะ หรือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. คือ รุ่นพี่ที่ผมเคารพรัก และเป็นต้นแบบตำรวจที่เพียบพร้อมหลายๆ ด้าน ใจถึง พึ่งได้ ทำงานเก่ง สมเป็นผู้บังคับบัญชา อีก 1 ท่าน ที่น่ายกย่อง”

   เขาระบายความรู้สึกหยดย้อยตามสไตล์หวานเจี๊ยบ

“พี่แป๊ะ ดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมามากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นตำแหน่งหลักที่มุ่งพัฒนา บำบัดทุกข์บำรุงสุขสู่ประชาชน ณ วันนี้ กับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นความรับผิดชอบที่เหมาะสมลงตัว ด้วยนโยบายการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างเข้มข้นในรอบหลายปีที่ผ่านมาจึงไม่แปลกอะไรที่ตำรวจไทยขยันขันแข็ง ลงพื้นที่กวาดล้างอาชญากรรม ขับเคลื่อนงานสุดขีด ความสามารถ”

“ภาพที่ไม่ต้องสร้าง เรื่องจริงที่ต่างรู้กันอยู่แก่ใจ”

ตบท้ายด้วยความเคารพในฐานะผู้บังคับบัญชา และฐานะน้องร่วมสถาบัน ข่าวลือที่แพร่สะพัด จึงไม่สามารถทำลายความสัมพันธ์ใด ๆ

แต่วันนี้ “พี่แป๊ะ”ไม่ใช่พี่ชายที่รักของ “น้องโจ๊ก”

และ “น้องโจ๊ก” คงไม่ใช่น้องชายที่รักของ “พี่แป๊ะ”

อารมณ์ขุ่นเคืองเนื่องจากมาจากสาเหตุอะไร เชื่อว่า ทั้งสองย่อมรู้ดีที่สุด มีส่วนของเชื้อปะทุที่ส่งผลมาจากการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายกำลังทัพตำรวจที่สร้างความเจ็บปวดตลอดหลายปี ภายใต้เงาอำนาจ “เผด็จการทหาร” ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

เมื่อเกิดปรากฏการณ์ “มารขาว-มารดำ” ปู้ยี่ปู้ยำโผ สลับเก้าอี้จัดบัญชีสนุกมือ ปล่อยแม่ทัพทำหน้าที่แค่ประทับลายเซ็นจบแทบไม่มีสิทธิลงความเห็นรายชื่อส่วนใหญ่

กระทั่งเกิด “ฟ้าผ่า” กลางเดือนเมษา

 “พี่แป๊ะ” รับคำบัญชาสะบัดปากกาเด้ง “น้องโจ๊ก” พ้นชายคาหน่วยตรวจคนเข้าเมือง นำไปสู่ “ฉากอวสาน” ในเครื่องแบบตำรวจ โอนย้ายเป็นข้าราชการพลเรือนตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี

ส่งสัญญาณเมฆดำทะมึนเหนือท้องทุ่งปทุมวันเริ่มคลี่คลาย ล้างคราบหิวกระหายของ “กลุ่มไอ้โม่ง” หาผลประโยชน์จากการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง

เกมอำนาจเปลี่ยนมาอยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ “ไฟเขียว” ยกอำนาจให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา กำหนดกติกาเปลี่ยนค่าย “สลายขั้ว” แบบยกกระบิ กระเทือนไปถึงเพื่อนฝูงพี่น้องของ “บิ๊กโจ๊ก”

แล้วก็ได้เวลาสุกงอมที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล โผล่ออกมาจากม่านเวทีแสดงบทจัดหนักฟัดกับรุ่นพี่ที่เคยรักและเคารพอย่างสูง

เดิมพันด้วยอายุราชการของตัวเองที่เหลืออีกสิบปี

ขณะที่อีกฝ่ายนับถอยหลังเหลือเพียง 260 กว่าวัน มีอันต้อง “ถอดหัวโขน”

 

RELATED ARTICLES