เบื้องหลัง “วิชามาร” ล้มกระดานอำนาจ “แม่ทัพสีกากี” เป็นประเด็นร้อนสะท้อนยุทธจักรตำรวจ
ปลายชีวิตราชการของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา กำลังถูกท้าทายจาก “ขบวนการไอ้โม่ง” โยงเรื่องราวสารพัดไปเปิดประเด็นไม่ชอบมาพากลในการคุมบังเหียน “สำนักปทุมวัน” ห้วงเวลานับถอยหลังของ “พิทักษ์ 1”
ทั้งที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาองค์กรตำรวจเจ็บปวดโดนทำลาย ไม่ใช่แค่น้ำลายพวกสอพลอ แต่ยังมีพวกชูคอ ขออัตราต่อรองราคาค่า “เก้าอี้” กำเนิด “มารดำ-มารขาว” สร้างรอยร้าวบนเสาเหลักต้นธารแห่งกระบวนการยุติธรรม
ก่อวิบัติกรรมกระทบไปถึงครอบครัวเหล่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไว้มากมาย
ฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายนอกจากต้องอาศัยเส้นสายและนายหนุนยังต้องมี “นายทุน” หมุนเม็ดเงินปูทางเดินอนาคตชีวิตราชการของหลายคน
วีรกรรม “มารดำ-มารขาว” ผุดเรื่องราวฉาวโฉ่โชว์อำนาจปราศจากความเป็นธรรม ปู้ยี่ปู้ยำบัญชี วางฐานรากทัพสีกากีที่เต็มไปด้วย “เมล็ดพันธุ์พิษ” ผลิต “ผลเน่า” มัวเมาเอาแต่ผลประโยชน์ ไม่คิดตอบโจทย์ความเดือดร้อนของประชาชน
คดีลัก-วิ่ง-ชิง-ปล้น ฆ่า ข่มขืน ดาษดื่นเป็น “ดอกเห็ด” ขาด “เพชรเม็ดงาม” ออกตามล้างผลาญโจรผู้ร้าย เหลือแต่กลุ่มหิวกระหายหวังถอนทุนค่าเก้าอี้ตำแหน่งคืนบวกด้วยผลกำไรไว้ “เติมเงิน”เดินแต้มต่อยอดในชีวิตราชการอนาคต
บรรดาแม่ทัพ-นายกองพากันถอดใจหมดมือไม้ “ไร้ขุนกระบี่” ไล่ขยี้อาชญากร
กระทั่ง “ฟ้าเปิด” เกิด “ฟ้าผ่า” ถึงเวลาล้างค่าย ทำลาย “ไส้เน่า” อุดรอยร้าวสำนัก ปักหมุดผุดที่ทางให้คนทำงานใช้ประสบการณ์ตามถนัด กำจัด “มือปราบตัวปลอม” ระเบิดวงล้อม “พวกจอมปลวก” สะดวกแต่หาเงินมือระวิง
ทว่า “เนื้อร้าย” ยังไม่อาจตายได้ทันที เพราะมี “ขั้วอำนาจเก่า” ยังอยากเอาคืน
ดิ้นรนขัดขืน “คำสั่งฟ้า” โผล่หน้าท้าทายอำนาจเหนือทุ่ง มุ่งเปิดศึกหวัง “กำชัย” กลับมาผงาดครั้งใหม่ ไล่บดขยี้ดิสเครดิตแม่ทัพ
“มารดำ-มารขาว” ต่างเฝ้ารอวันเผด็จศึก คึกคักเพื่อจะก้าวกลับมาประกาศคืนสังเวียน
หากถึงวันนั้นสำนักปทุมวันคงเหี้ยนเตียนอีกรอบ
คำตอบอาจขึ้นอยู่กับ “ฟ้าและเทวดา” จะยอมศึกครั้งนี้ไหม
