วายร้ายในโลกออนไลน์

เสมือนอุทาหรณ์สอนหญิงไทยในต่างแดน

“มันจะคุ้มค่าเครื่องบินหรือ” หลายคนคงคิดถึงราคาค่าตั๋วการเดินทางข้ามทวีปเรือนแสนเพื่อเพียงมาเอาผิดผู้ต้องหาฉ้อโกงเงินไม่กี่หมื่นบาท

แถมอาจต้องเสียเวลาสอบปากคำ

สุดท้ายอาจ คว้าน้ำเหลว หากตำรวจไม่พยายามแกะรอยตามคดี

แต่สำหรับ นางจีรานุช ทุเครือ เจ้าของกิจการปลาร้าเขยลาว สาวไทยในแดนกังหันลมไม่ได้คิดแบบนั้น

เธอได้สามีเป็นชาวเนเธอแลนด์ ญาติกับ “ยาป สตัม” อดีตปราการหลังคนดังของทีมชาติฮอลแลนด์ และ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ตามคนรักไปอยู่ถิ่นเกิดของฝ่ายชาย กระทั่งโดนคนร้ายสวมรอยเป็นญาติ “แชตไลน์”หลอกให้โอนเงินไป 48,000 บาท

เมื่อรู้ความจริง เจ้าตัวควงสามีตีตั๋วบินกลับเมืองไทยเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ธณรณ เหล่าเขตกิจ รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะทราบมีสาวไทยในหลายประเทศโดนหลอกลักษณะเดียวกัน

ตำรวจไล่แกะรอยจากบัญชีธนาคารที่โอนกันไปมา กระทั่งพบ น.ส.อรินทร สิงหาสาร ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ทว่าไหวตัวหลบหนีไปก่อนหน้า  

หลังย่ามใจก่อคดี เพราะไม่มีผู้เสียหายควักค่าใช้จ่ายซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางจากต่างประเทศเพื่อมาเอาผิด

ผ่านไปนานหลายเดือน ผู้ต้องสงสัยยังอาละวาดต้มเหยื่อผ่านสังคมออนไลน์บนหน้ากระดาน “เฟซบุ๊ก” ล่าสุดหลอกผู้เสียหาย สวมรอยน้องสาวที่ได้สามีเป็นชาวต่างชาติและพักอาศัยอยู่ต่างประเทศ อ้างว่า กระเป๋าหาย เงินทอง เอกสารสำคัญในกระเป๋าหายไปด้วย

กุเรื่องว่าคนไทยที่อยู่ต่างประเทศด้วยกันน่าจะเป็นคนลักขโมยไป

เอาเลขบัตรประชาชนไปลงทะเบียนออนไลน์ของธนาคารเพื่อทำธุรกรรมการเงินลักลอบถอนไป 14,400  บาท

แม้จะเป็นเงินเพียงเล็กน้อย แต่กว่าจะหามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของผู้หญิงคนหนึ่งลำบากอย่างหนัก

เที่ยวนี้ ผู้ต้องสงสัยพลาด เพราะผู้เสียหายอยู่เมืองไทยแถมเป็นญาตินายตำรวจ แนะนำไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ประสานกับธนาคารที่เกี่ยวข้อง ถึงน่าเชื่อเป็นฝีมือของ น.ส.อรินทร สิงหาสาร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 304 หมู่ 14 ตำบลแม่เปิน อำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์

มีหมายจับศาลจังหวัดสงขลาที่ จ.55/2563 ลง 22 มกราคม 2563 ข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ,ผู้ใดกระทำความผิดโดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

พฤติการณ์ปลอมเฟซบุ๊กหลอกเป้าเหมายที่มีสามีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ต่างประเทศ ตามความเคลื่อนไหวในโปรไฟล์เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมก่อน “แอดขอเป็นเพื่อน” จนเหยื่อตายใจคิดว่าเป็นญาติตัวจริง

แผนประทุษกรรมจะลวงให้โอนเงินยอดรายละไม่ถึงแสนบาท เพื่อให้เหยื่อมองว่า ไม่คุ้มค่าพอกับตั๋วเครื่องบินข้ามทวีปมาดำเนินคดีเอาผิด

ถึงก่อคดีลักษณะดังกล่าวไปหลายท้องที่

ในที่สุด พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 พ.ต.ท.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย รองผู้กำกับการสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง 3 พร้อมชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดด่านพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ แลกเปลี่ยนข้อมูลกองบังคับการปราบปราม และตำรวจหลายท้องที่ตามลากคอได้สำเร็จ

ปิดฉากภัยสังคมอีกรายที่อาละวาดเกลื่อนในสังคมออนไลน์

ขึ้นอยู่ตำรวจไทยจะมีหัวใจพร้อมแค่ไหนในการติดตาม

RELATED ARTICLES