“เราเลือกมาเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนแล้วจะทำให้เต็มที่ด้วยความตั้งใจที่สุด”

นับว่าเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจของหนุ่มๆที่ได้พบเห็นพวกเธอทั้งคู่ โดยเฉพาะหนุ่มๆวงการน้ำหมึกในยุคดิจิทัล เมื่อทราบมี “พิราบแฝดตัวน้อย” มากางปีกสยายในสังกัด สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก หรือ ช่อง 5 เป็นเด็กเฟรชชี่ที่เพิ่งมาตระเวนข่าว

กลุ่มคนข่าวถึงกับอดใจไม่ไหวกระหายอยากรู้จักพี่น้องสองสาวผ่านในกรุ๊ปไลน์อย่างหนัก เพราะความน่ารัก วัยใสของพวกเธอ

“ดาว” อรปรียา งามสง่า เป็นแฝดผู้พี่ ส่วน “เดือน” อรวรรยา งามสง่า เป็นแฝดน้อง พื้นเพมาจากดินแดนแห่งขุนเขา อยู่เหนือสุดแดนสยาม จังหวัดเชียงราย  เกิดในครอบครัวที่อบอุ่น พ่อเป็นนักธุรกิจแฟรนไชส์ กาแฟชาวดอย  กับคาเฟ่ อเมซอน ส่วนคุณแม่ทำออแกไนเซอร์งานแต่งงาน มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน

ทั้งคู่ลูกคนที่สองกับสามของครอบครัว  มีไลฟ์สไตล์ที่ชอบทำกิจกรรมด้วยกันตั้งแต่ยังเล็ก จบชั้นประถมโรงเรียนดรุณราษฎร์วิทยา จ.เชียงราย ก่อนข้ามไปเรียนต่อสายวิทย์-คณิต โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา

ขณะนั้นมีความชอบในหน้าที่ พิธีกรรายการ ผู้ประกาศข่าว เพราะมองว่า เป็นงานที่ท้าทายความสามารถ ต้องกล้าแสดงออก แล้วต้องใช้ไหวพริบค่อนข้างสูง ถึงอาสารับหน้าเป็นพิธีกรโรงเรียน และอ่านข่าวคลื่นวิทยุของโรงเรียน บวกกับความน่ารักผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

กระทั่งถึงคราวต้องไปเรียนมหาวิทยาลัย พ่อตั้งใจให้ทั้งสองคนเรียนคณะนิติศาสตร์ สุดท้ายถึงเวลาที่พวกเธอต้องแยกออกไปใช้ชีวิตต่างกันเพื่ออนาคต เมื่อดาวย้ายเข้าไปเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 ส่วนเดือนเข้าเป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ทั้งสองยังได้เป็นดาวของคณะ เป็นพิธีกร และเป็นนักกิจกรรม เมื่อจบการศึกษาพี่น้องฝาแฝดตั้งใจจะทำตามความชอบของตัวเอง ด้วยการเข้าสมัครแข่งขันเพื่อเป็นผู้สื่อข่าว ผู้ประกาศข่าวหน้าใหม่ของค่ายสนามเป้า

ดาวกุมมือเดือนไปเป็นแพคคู่มาสมัครงานจนมาเป็นนักข่าวตระเวนป้ายแดง หลังจากผ่านบททดสอบหลากหลายประการเหมือนกับคนอื่น ๆเช่นกัน

ทั้งนี้ดาว-เดือน ยังซุ่มเรียนเนติบัณฑิตยสภาในพระบรมราชูปถัมภ์อีกด้วย

พวกเธอเล่าประสบการณ์การทำงานไว้ว่า โชคดีที่เรียนนิติศาสตร์ สามารถนำความรู้ที่เรียนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริงต่อหน้าที่สื่อมวลชน รู้สึกว่าน่าสนใจเป็นการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ที่มีความท้าทายอย่างมาก มีอะไรให้เราต้องค้นหาอยู่ตลอดเวลา แถมยังตระเวนข่าวไปทุกโต๊ะเพื่อจะได้รู้จักแต่ละสายงาน

ส่วนตัวคนพี่ชอบสายอาชญากรรม เศรษฐกิจ คนน้องชอบสายทหาร กระทรวงกลาโหม การเมือง ในสิ่งที่ต่างคนต่างรู้สึกว่าถนัด อย่างไรก็ตามแฝดสาวยังยืนยันต้องฝึกฝนการหาประเด็นข่าวให้เก่งกว่านี้ และรอบรู้ข่าวสารสถานการณ์ในแต่ละวัน

“เราเลือกมาเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนแล้วจะทำให้เต็มที่ด้วยความตั้งใจที่สุด” คนข่าวสาวแฝดว่า  ดั่งคติประจำใจ “จงหิวข่าวก่อนหิวข้าว”

RELATED ARTICLES