ภาพที่ยังไม่อาจลบได้หมด

เราอาจเปลี่ยนแปลงตัวเองได้

แต่เราไม่สามารถบังคับใครให้เปลี่ยนความคิดได้

ท่ามกลางกระแสสารพัด  “ตั๊น-จิตภัสร์ กฤดากร” สาวทายาทตระกูลดัง คล้ายกับ บี-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตแกนนำคนสำคัญของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส.

ทั้งคู่ไม่อาจลบภาพเก่าสมัยพากลุ่มผู้ชุมนุมบุกไปล้อมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กดดันการทำหน้าที่ของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้นำปทุมวันยุคนั้น

กระทั่งบานปลายถึงขั้นทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ย่ำยีหัวใจและศักดิ์ศรีของเหล่าผู้พิทักษ์เครื่องแบบสีกากีทั้งกองทัพ

ปัจจุบัน บี-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ได้ดิบได้ดีนั่งเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยืดอกลอยหน้าลอยตาเดินเข้าออกสำนักปทุมวันในฐานะผู้บังคับบัญชาให้นายพลน้อยใหญ่ยืนทำความเคารพกลบภาพความรู้สึกเก่าหายวับไปได้อย่างนั้นหรือ

ดังนั้น ตั๊น-จิตภัสร์ กฤดากร คงไม่ต่างกัน หลังจากเธอได้รับคัดเลือกให้เข้าไปทำหน้าที่เป็น คณะกรรมาธิการการตำรวจ

เปรียบเสมือนโบนัสตอบแทน “สหายร่วมรบ” นำไปสู่การโค่นล้มอำนาจเก่าในครั้งก่อน

เรียกกระแสฮือฮาจากบรรดาผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อีกระลอก

จะว่าไปแล้ว ตั๊น-จิตภัสร์ กฤดากร ที่ยอมตัดขาดจากตระกูล “ภิรมย์ภักดี” ของพ่อ เป็นทายาทสายตรงของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศรวรฤทธิ์ มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร พระราชโอรสพระองค์ที่ 17 ใน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต้นราชสกุล “กฤดากร”

ทรงว่าราชการกรมพระนครบาลในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปรับปรุงและจัดระเบียบกิจการตำรวจกรมกองตระเวนวางรากฐานกองบัญชาการตำรวจนครบาลจวบจนทุกวันนี้

ถึงมีอนุสาวรีย์ประดิษฐานไว้หน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล วังปารุสกวัน

ขณะที่สาวไฮโซ ตั๊น-จิตภัสร์ กฤดากร เคยตกเป็นข่าวเตรียมสมัครเข้ารับราชการตำรวจสังกัด กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เมื่อปี 2558 สุดท้ายไม่อาจต้านกระแสจนต้องยอมโบกมือลาความตั้งใจที่จะสวมบทนายตำรวจหญิง

เจ้าตัวเคลียร์ใจทั้งน้ำตาครั้งนั้นที่ห้องไลบารี ชั้น 1 โรงแรมดุสิตธานี ยืนยันมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติ

ต้องการมีส่วนร่วมในบทบาทหน้าที่ตำรวจคอยดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุขใกล้ชิดประชาชน

เธอว่า ตำรวจเป็นอาชีพทรงเกียรติ เสียสละ ทำงานหนัก เป็นผู้รักษากฎหมาย เสี่ยงภัย เพื่อผดุงความยุติธรรมให้กับประชาชน ที่ผ่านมาเคยร่วมทำงานกับตำรวจในบางสถานการณ์รับรู้ความทุกข์ยาก โดยเฉพาะตำรวจชั้นประทวน ทำให้มีความเข้าใจและอยากมีส่วนร่วมในการศึกษากระบวนการทำงานของตำรวจ เพราะตำรวจยังขาดแคลนบุคลากรและงบประมาณ

“ถ้ามีโอกาส ตั๊นไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมเป็นตำรวจ การเปิดรับสมัครตำรวจมีประจำทุกปี ต้องผ่านการคัดเลือกตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” เธอว่าก่อนตัดสินใจไม่ดำเนินการต่อไปตามขั้นการคัดเลือกเป็นข้าราชการตำรวจ

เจ้าตัวบอกด้วยว่า ในการชุมนุมที่ผ่านมา แม้จะมีบทบาทการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ไม่มีเจตนาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของตำรวจ แต่ได้แสดงออกอยากให้ตำรวจเป็นที่พึ่งแท้จริงของประชาชน แม้ในสถานการณ์การชุมนุมได้เจอกับตำรวจ ต่างมีน้ำจิตน้ำใจไมตรีต่อกัน เพราะเข้าใจว่า ต่างคนดำเนินการไปตามหน้าที่

“ท้ายที่สุดขอบคุณทุกกำลังใจ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ที่คงไม่มีวาสนาเข้ามาทำงานตำรวจ สวมเครื่องแบบในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์”

คำพูดจากใจเมื่อหลายปีก่อนที่ยังไม่อาจลบภาพเก่าก่อนตอนเธอพาพวกบุกไปท้าทายทัพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

วันนี้ถึงเวลาที่เธอจะพิสูจน์ความจริงใจของตัวเองอีกครั้ง

 

 

 

RELATED ARTICLES