ยาหอมชโลมชีวิตวิกฤติขุนศึก

ต้องยอมรับวิกฤติสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบมากมาย

หวัดมรณะสายพันธุ์ใหม่ ไม่ได้ทำลายล้างแค่มนุษยชาติ แต่ลุกลามพังสภาพเศรษฐกิจย่อยยับจากการต้องใช้มาตรการเข้มเพื่อสกัดการแพร่กระจายของเชื้อโรคระบาด

เมืองไทยหลากหลายธุรกิจถูก กากบาท สั่งปิดกิจการกลายเป็นห้างร้างไร้ผู้คน หลายอาชีพโละพนักงานเพื่อพยุงกิจการให้อยู่รอดแบบ กัดกอดก้อนเกลือ เฉือนเนื้อทิ้ง ประวิงเวลาหายใจให้ยาวอีกสักระยะเผื่อเอาชนะวายร้ายไวรัสได้เร็วขึ้น

หน่วยงานข้าราชการน่ากังวลมากสุดไม่พ้น องค์กรผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ท่ามกลางกำลังพลเกือบ 2 แสนนาย

ว่ากันว่า จ่ออดตาย เพราะเบื้ยเลี้ยงจาก ธุรกิจสีเทาหดหาย

ทว่าเมื่อมีคำสั่งของ ผู้เป็นนาย  ถึงจะหิวกระหาย ตาลายก็ต้องก้มหน้าปฏิบัติหน้าที่

แม้อาจมีเพียงบางส่วน แตกแถว เล่นบทนอกกรอบในทันทีที่อยู่ในสถานะ กรอบไปทั้งตัว ครอบครัวเข้าตาอับ

เงินขาดมือ สุดยื้อ เพราะภาวะหนี้สินรุมเร้าตามมา

วิกฤติ ปากร้อง ท้องกิ่ว ระลอกนี้ จำเป็นที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องแสดงบท แม่ทัพ ขยับดูแล ขุนศึกไม่ให้นึก น้อยเนื้อต่ำใจ ไร้การบำรุงขวัญขับเคลื่อนให้ กองทัพสีกากี มีกำลังเรี่ยวแรงไปดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

บันทึกข้อความที่ 0009.33/1496 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึง ผู้บัญชาการ หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่า ผู้บังคับการ ในสังกัด สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่า

(ไม่ครอบคลุมถึงหน่วยกองบัญชาการอื่นนอกสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ)

เรื่องนโยบายการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ข้าราชการตำรวจ

น่าจะเป็น ยาหอม ชโลมชีวิตวิกฤติขุนศึก

ความระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้ส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนของข้าราชการตำรวจและครอบครัว ในการนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยต่อข้าราชการตำรวจและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง

สำนักงานตำรวจพิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระทางด้านการเงินให้แก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ อีกทั้งเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ราชการให้แก่ข้าราชการตำรวจ

ให้ท่านสั่งการเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบด้านการเงิน ดำเนินการตรวจสอบข้าราชการตำรวจในสังกัดที่มียอดเงินเดือน คงเหลือต่ำกว่า 5,000 บาท 

โดยให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการ ดังนี้

กำหนดมาตรการในการให้ความช่วยเหลือด้านสวัสดิการต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทางด้านการเงินแก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัว

เช่น จัดหาอาชีพเสริมให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัวให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบันเพื่อเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายในครัวเรือน เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น  จัดโครงการอาหารกลางวันให้กับข้าราชการตำรวจ จัดโครงการตู้ปันสุข เป็นต้น

ให้หน่วยงานระดับ กองบัญชาการ และกองบังคับการ ในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รายงานผลการดำเนินการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผ่านผู้บังคับการสวัสดิการ ) ทราบ ภายใน 30 มิถุนายน 2563 เพื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้กำหนดแนวทางในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือในภาพรวมต่อไป

ปัดเป่าได้แค่ไหน

ทุกหน่วยได้รับการเยียวยาผลกระทบทั้งหมดหรือไม่

คงต้องไล่ถามตามกันเอาเอง

 

RELATED ARTICLES