อาจไม่หมูเหมือนที่ “ลุงตู่”ฝัน

“จากนี้เป็นต้นไปผมจะเป็นผู้รับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจะดำเนินการปฏิรูปตำรวจให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพูดเสียงดังฟังชัด

ภายหลังรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐชนะการเลือกตั้งแล้วผลักดันให้นั่งเก้าอี้ผู้นำต่อ

เวลาผ่านไปเชื่อว่า “นายกฯตู่” คงรู้แล้ว ภารกิจคุมทัพตำรวจไม่หมูเหมือนที่ใจคิด

แม้จะไร้เงา “มารขาว-มารดำ” ตัวการที่อยู่เบื้องหลังการแต่งตั้งโยกย้ายบ่อนทำลายองค์การของตัวเอง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สามารถขจัดปัดเป่าทุกข์ร้อน “ลำดับต้น” ของขุนพลในท้องทุ่งปทุมวันได้ให้เห็นทันตา

หรือเหตุเพราะว่าเจ้าตัวไม่รู้จักอาณาจักรตำรวจดีพอ

“ทั้งนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วนด้วย ทั้งเรื่องการปฏิรูปองค์กร บุคลากร วิธีการปฏิบัติงาน ที่มาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นต้นทางระบบยุติธรรมซึ่งมาจากตำรวจ อัยการ และศาล โดยทั้งหมดจะต้องสอดคล้องกัน เพราะปฏิรูปตำรวจอย่างเดียวคงไม่พอ เป็นเรื่องที่ต้องหารือดำเนินการได้โดยเร็ว” นายกรัฐมนตรีชี้แจงกลางที่ประชุมแถลงนโยบายต่อสมาชิกรัฐสภา

นายกฯยืนยันให้คำมั่นจะดำเนินการปฏิรูปตำรวจให้เกิดความชัดเจนครั้งนั้น

น้ำลายของผู้นำบูดเสียแล้วหรือ

อดีตหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติยามไร้อำนาจของมาตรา 44 อยู่ในมือน่าจะกำลังสับสนวุ่นวายอยู่เต็มหัว

ลำพังแค่การแต่งตั้งโยกย้ายระดับนายพลตั้งแต่ “หัวแถว” ยันถึง “กลางแถว” เหมือนเรือแจววิ่งสวนไปสวนมา ไม่ยอมจอด “เทียบท่า” เสียที

ฝุ่นตลบทำบัญชีไม่จบ

อบอวลเต็มไปด้วย “ใบสั่ง” และ “ตั๋วฝาก” มากมายทุกสารทิศ

ไม่ง่ายเหมือน “เขย่าโผ” วางตัวคณะรัฐมนตรี ไม่ฉลุยเรียบร้อยดีเหมือน “ปรับบัญชี” กองทัพทหาร

ทั้งนี้ทั้งนั้น เกิดจาก “วิชามาร” ของเหล่าตำรวจเลือกเอามาประกวดประชันชิง “เก้าอี้ทอง” ไม่ต้องมองหลักเกณ์การพิจารณา

คำว่า อาวุโส ความรู้ ความสามารถ เป็นเพียงใบประกาศแปะข้างฝา ถึงเวลาจะโดนหยิบนำมาใช้เฉพาะกับคนของ “กลุ่มขั้วอำนาจ” ไปประกาศหาความชอบธรรมถึงความเหมาะสมในการเลือก “ใครสักคน” เข้ามานั่งตำแหน่งที่มีการแข่งขันสูง

เมื่อ “นักกรีฑาสีกากี” มีโอกาสเข้าลู่วิ่งที ต้องมีกีฬา “งัดข้อ” วัดพลัง

เหล่านี้ คือ ปัญหาหมักหมมมาหลายยุคหลายสมัยตลอดหลายทศวรรษ “กองทัพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ที่ผู้นำประเทศอยากกุมอำนาจให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่อาจปล่อยหลุดลอยไปอยู่ในมือใคร

เนื่องจากกองทัพตำรวจไม่ได้มีแค่อาวุธยุทโธปกรณ์ไว้ต่อกรกับวายร้าย

พวกเขาล้วนมีกฎหมายอยู่ในมือ

ชี้เป็น ชี้ตาย ชี้ถูก ชี้ผิด ทุกคนได้ แม้แต่นายกรัฐมนตรี !!!

 

 

 

 

RELATED ARTICLES