“เกียรติตำรวจของ ไทย เกียรติ วินัย กล้าหาญมั่นคง…” เสียงเพลงมาร์ชตำรวจดังกึกก้อง
กำลังพลตบเท้าฮึกเหิม
พิธีสวนสนามของข้าราชการตำรวจที่รับการแต่งตั้งมาดำรงตำแหน่งใหม่เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาครบปีที่ 11 ของ กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2563 เต็มไปด้วยความพร้อมเพียง
คือ ความภาคภูมิใจของนายสิบตำรวจใหม่ทุกคนที่ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพต่อหน้าผู้บังคับบัญชา
นับเป็นครั้งแรกของหน่วยที่ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผู้บังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน จัดพิธีเรียกขวัญกำลังใจลูกน้องบริเวณลานเอนกประสงค์ สวัสดิการ ด้านหลังสนามบุณยะจินดา
กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกา แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พุทธศักราช 2552 ลงวันที่ 6 กันยายน 2552
มีภารกิจในการถวายอารักขาและรักษาความปลอดภัยแด่องค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ พระราชอาคันตุกะ และบุคคลสำคัญ
อีกทั้งภารกิจควบคุมฝูงชน รักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มมวลชนต่าง ๆ
ตามวิสัยทัศน์ “เกียรติ วินัย กล้าหาญ อดทน”
งานครบรอบวันคล้ายวันสถาปนาปีที่ 11 ของหน่วยครั้งนี้ มีอดีตผู้บังคับบัญชาคืนสู่เหย้ามาร่วมเป็นสักขีพยานการสวนสนามเรียกขวัญกำลังพลหลายคน อาทิ พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง พล.ต.ต.ลือชัย สุดยอด พล.ต.ต.วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี และพล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ
“ถึงตัวจะตายก็ช่างมัน มิเคยคำนึงถึงชีวัน เข้าประจันเหล่าร้ายเพื่อประชา”
พวกเขาเป็นกำลังพลรุ่นใหม่ที่ชั่วโมงบินอาจจะน้อยต้องคอยเวลาอาศัยประสบการณ์เพื่อก้าวไปทำหน้าที่ตามภารกิจสำคัญระดับประเทศ
หลายคนคาดหวังเพียงแค่เป็นทางผ่านสู่อาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ทำให้เกิดอาการท้อถอยถอดใจเวลาเผชิญสถานการณ์ในสนาม
ท่ามกลางงบประมาณที่มีจำนวนจำกัด
พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ในฐานะแม่ทัพหน่วยจึงพยายาม “เรียกขวัญ” ด้วยการลงสนามเคียงข้างผู้ใต้บังคับบัญชา
เอาใจแลกใจ ไม่ใช่ใช้คำสั่งแลกเนื้องาน
“เนื้อของเรา เราเชือด พร้อมทั้งเลือด เราพลี เอาชีวีของเราเข้าแลกมาเพื่อให้ประชา ดำรงค์ สุขสถาพรชัย..” เพลงมาร์ชตำรวจยังคงบรรเลงต่อเนื่อง
ผู้บังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ได้จัดกิจกรรมตลอด 1 ปีที่ผ่านมาเพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชาภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีความเป็นกำลังพลของ “หน่วยอัศวิน” กับภารกิจเพื่อสถาบันและประเทศชาติ ตั้งแต่ประดับยศ “นายสิบตำรวจใหม่” จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่
ก่อนทำพิธีสวนสนามแสดงแสนยานุภาพของหน่วย
“ ปราบภัยให้ผองพาล ต้องเกรงขาม เราปราบปราม เสริมความสุขสันต์ เหล็กที่แกร่งกล้านั้น เราฝึกกายาทุกวัน แข็งกว่าเหล็กนั้น ตำรวจไทย” พวกเขาถูกเติมความฮึกเหิมเพื่อเตรียมออกไปเผชิญเรื่องราวของในอนาคต
ทว่าไม่ใช่รบอริราชศัตรู
แค่ทำหน้าที่ดูแลความสงบของบ้านเมืองให้เป็นระเบียบเรียบร้อยของคนไทยด้วยกันเอง
จำเป็นต้องอดทน อดกลั้นต่อสิ่งยั่วเย้า
ไม่เอาอารมณ์เข้าไปอยู่ในเกม
เกมที่พยายามจะจุดอุณหภูมิเดือดให้เลือดนองแผ่นดิน