ตลอดระยะเวลา 3 ปีบนเก้าอี้แพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ
พล.ต.ท.วิฑูรย์ นิติวรางกูร พยายามยกระดับโรงพยาบาลให้ได้ตามมาตรฐานสากล ขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ออกสู่สาธารณะ
ทำโรงพยาบาลตำรวจเพื่อรักษาข้าราชการตำรวจและประชาชนอย่างแท้จริง
ตามมอตโต้ “โรงพยาบาลตำรวจจะเป็นสถาบันทางการแพทย์ของตำรวจที่มีความเป็นเลิศในระดับสากล”
โดยเฉพาะช่วงวิกฤติสถานการณ์ไข้หวัดโควิด-19 ระบาดหนักจนลุกลามกระจายไปทั่วโลก โรงพยาบาลตำรวจเป็นอีก “หน้าด่านสำคัญ” ที่ทำหน้าที่ “นักรบเสื้อกาวน์” ลงสมรภูมิเสี่ยง “เชื้อโรคมรณะ” กระทั่งประสบความสำเร็จในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อจนหายกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ
ผุดโครงการ “รับยาฟรีส่งไปรษณีย์ถึงบ้าน” ลดภาระการเดินทางของผู้ป่วยท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของ โรคอุบัติใหม่
ก่อนต่อยอดโครงการ lnlove @Home ด้วยการส่งคณะแพทย์ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนดูอาการผู้ป่วยตามบ้านที่ได้รับการร้องขอผ่านช่องทางเฟซบุ๊กของโรงพยาบาลตำรวจ
สร้างความประทับใจทั้งผู้ป่วยและครอบครัวที่เห็นการเอาใจใส่ของคณะแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ และยังเป็น “หัวเรือ” ในการประสานเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ช่วยดูแลเรื่องสวัสดิการอีกทางหนึ่ง
นี่คือ ภาพลักษณ์ขององค์กร ที่ไม่ต้อง “จัดฉาก” แต่งแต้มเติมสีสันให้มันขึ้นกล้อง
แต่สุดท้ายถึงเวลา “เซ็ตซีโร่” ในทันทีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงผู้นำ
พล.ต.ท.โสภณรัช สิงหจารุ แพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจคนใหม่ ขอเวลาทบทวนกระบวนการบริหารงานโรงพยาบาลใหม่ทั้งหมด
หลายโครงการถึงต้องยกเลิกไปก่อน
ส่วนจะชั่วคราวหรือถาวรอยู่ที่การตัดสินใจของผู้บริหาร
บางคนรู้สึกเสียดาย
บางคนเสียน้ำตากับสิ่งที่แลกมาด้วยความตั้งใจมุ่งมั่นเกินร้อย
lnlove @Home เป็นอีกโครงการที่จำเป็นต้องปิดตัวลงไปพร้อม ทีมงานประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลตำรวจ
“เซ็ตซีโร่ใหม่” พวกเขาไม่มั่นใจเหมือนกันว่า จะกลับมาเริ่มต้นสตาร์ตด้วย “เลขหนึ่ง “ หรือสูญหายไปโดยปริยายไหม
“หัวใจนักรบเสื้อกาวน์” กำลังห่อเหี่ยว
เก็บเกี่ยวความรู้สึกแล้วอดนึกถึงพระราชดำรัส สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย
“ขอให้ถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตามมาแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์”
เพราะฉะนั้นใครก็หยุดอุดมการณ์ของพวกเขาไม่ได้