จากสถานการณ์น้ำท่วมเฉียบพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในเขตพื้นที่ 7 จังหวัด ภาคใต้ของประเทศไทย ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส และยังคงมีระดับน้ำ ที่สูงขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก
พ.ต.อ.ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ พยาบาล สบ5 โรงพยาบาลตำรวจ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำความห่วงใยและข้อสั่งการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ตระหนักถึงความสำคัญของผลกระทบที่เกิดขึ้น จึงกำชับให้ทุกหน่วยในพื้นที่ประสบอุทกภัยระดมกำลังช่วยเหลือประชาชน และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมจากมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสซ้ำเติมและเอารัดเอาเปรียบประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม จัดชุดปฏิบัติการเฝ้าติดตามสถานการณ์ บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ระดมสรรพกำลัง อุปกรณ์เครื่องมือ ยานพาหนะ รองรับภารกิจอย่างเร่งด่วน
สำหรับในส่วนการบำรุงขวัญ ฟื้นฟูคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้แต่ละจังหวัดนำกำลังตำรวจจิตอาสาร่วมกับประชาชนจิตอาสาลงพื้นที่ช่วยเหลือและประชาสัมพันธ์แนวทางการติดต่อขอรับความช่วยเหลือ รวมทั้งเส้นทางการจราจรให้ประชาชนได้รับทราบ ให้ทุกหน่วยปฏิบัติตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเคร่งครัด พร้อมสนับสนุนด้านกำลังพล อากาศยาน และ รือ รวมถึงการช่วยเหลือ ให้บริการ อำนวยความสะดวกการเดินทาง และการรักษาความปลอดภัยแก่ประชาชน
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน หากพบเห็นบุคคล ต้องสงสัยที่จะก่อให้เกิดอาชญากรรม หรือพบเห็นการกระทำในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือ
เกิดอันตราย สามารถแจ้งเบาะแสหรือข้อร้องเรียน มายังสายด่วน 191 และสายด่วน 1599 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสอบถามข้อมูลการจราจรได้ที่สายด่วน 1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
