ตม.ตรวจชายแดนตะวันตกเข้มสกัดต่างด้าวเข้าเมือง

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วย พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากรปุณยสิริ ผู้บังคับการตรวจคนเข่้าเมือง 3 พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 พ.ต.อ.หฤษฏ์ เอกอุรุ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 ร่วมกับ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ ผู้บัญชาการสำนักกฎหมายและคดี พล.ต.ต.นิพนธ์ รัตนศิริแสงโชติ ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 8 จเรตำรวจ นำคณะเดินทางไปตรวจราชการภาคใต้ตอนบนและชายแดนด้านตะวันตกในพื้นที่จังหวัดระนอง จังหวัดชุมพร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดราชบุรี หลังจากก่อนหน้านี้มีขบวนการลักลอบขนคนต่างด้าวเข้ามาในประเทศไทยจนนำไปสู่การระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่

ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกล่าวว่า ชายแดนด้านตะวันตกเป็นระยะทางยาว 2,401 กิโลเมตร รวม 10 จังหวัด พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญมาโดยตลอดเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ที่เน้นมาด้านนี้ เพราะเมียนมาใกล้กับอินเดียมีการระบาดของโควิด-19 จำนวนมาก เป็นพื้นที่เสี่ยง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจตระเวนชายแดนเป็นหน่วยสำคัญต้องมาเน้นกำชับการปฏิบัติ ตนเน้นมาเสมอว่า อย่าให้แสวงหาประโยชน์ หากตำรวจร่วมกับขบวนการขนคนต่างด้าวเมื่อสอบสวนโรคแล้วไม่มีทางรอด เพราะจะรู้หมดว่า จ่ายเงินให้กับใคร ต้องร่วมมือกันสกัดกั้น โดยเฉพาะช่วงนี้รัฐบาลเปิดให้คนต่างด้าวใช้สิทธิผ่อนผันขึ้นทะเบียนเป็นแรงงานถูกกฎหมายได้จึงกังวลว่าคนต่างด้าวจะลักลอบทะลักเข้ามาในไทยอีกโดยไม่ผ่านการตรวจคัดกรองโรค

ด้าน พล.ต.ท.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ ผู้บัญชาการกฎหมายและคดีระบุว่า ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมาย เพราะตำรวจ ตรวจคนเข้าเมืองมีการปฏบัติที่ขึ้นกับคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19  กำหนดให้เข้มงวดกับการจับกุมผู้ที่หลบหนีเข้าเมือง เรื่องที่เน้นย้ำ คือ ตำรวจทุกคนเป็นเจ้าพนักงานโดยตรง และยังต้องปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพราะการค้ามนุษย์กับการลักลอบเข้าเมืองเกี่ยวเนื่องกันในการแสวงหาผลประโยชน์ที่อาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์อีกด้วย

 

RELATED ARTICLES