สารวัตรหนุ่มสะสมนาฬิการุ่นหายาก 

 

ารวัตรภัทร- พ.ต.ต.ภานุภัทร กิตติพันธ์ สวป.สน.คลองตัน อดีตนายตำรวจนักสืบหนุ่มรุ่นใหม่ กับสไตล์สุดเท่ เขาเป็น นรต.รุ่นที่ 60 และเป็น ตท.รุ่นที่ 44  เป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิด แต่ไปตั้งรกรากอยู่แถวปากเกร็ด จ.นนทบุรี ศึกษาระดับชั้นมัธยมที่โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี ก่อนสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารตอนเรียน ม.ปลาย และเลือกเหล่าตำรวจ และเป็นนายตำรวจหนุ่มติดดาวบนบ่าครั้งแรก ที่ สภ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในตำแหน่งพนักงานสอบสวน ระยะเวลา 1 ปี

เส้นทางสีกากีของเขาหลังจากนั้นได้ขยับความรับผิดชอบเข้ามาช่วยงานที่ฝ่ายอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (บช.ภ.3) และเป็นผู้ช่วยนายเวร พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1(บช.ภ.1) กระทั่งนายเกษียณ ก็เข้ารับตำแหน่ง รอง สว.สส.สน.ทองหล่อ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2557 ได้ขยับขึ้นเป็น สว.สส.สน.ทองหล่อง และขยับลง สวป.สน.คลองตัน จนถึงปัจจุบัน

ผ่านการอบรมสารวัตรรุ่นที่ 122 สำหรับผลงานในการทำงานของการเป็นนักสืบนั้น เขาพูดแกมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี การันตีผลงานสั้นๆว่า “เปิดในกูเกิ้ลก็เจอ”

หลังพูดคุยที่มาที่ไปของเส้นทางผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แล้ว นายตำรวจหนุ่มไฟแรง ได้เปิดตู้ของสะสมสุดรักสุดหวง ที่ตกแต่งภายในสุดสวย เพื่อโชว์นาฬิกาเรือนโปรด และของสะสมต่างๆ อาทิ รองเท้า โมเดลรถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อต่างๆ และของแต่งกายแบรนด์เนม ก่อนจะแจกแจงว่า การริเริ่มสะสมของต่างๆเหล่านี้ เริ่มจากเป็นคนที่ชอบสีชมพู อยากได้นาฬิกาแล้วเสาะแสวงหาตามสีที่ชอบ แต่หาซื้อไม่ได้ จนกระทั่งพบ นาฬิการุ่น G – Shock สีทองออกมาอีก และเป็นสีที่ชอบอีกสีหนึ่ง จนกลายเป็นเรือนแรกที่ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงด้วยราคากว่า 1 หมื่นบาท

“ระหว่างนั้นก็ไม่ละลดที่จะตามหาเรือนสีชมพูที่ตั้งใจเอาไว้ ก็พบข้อมูลในกลุ่มสมาชิกที่เล่นนาฬิการุ่นเดียวกัน จนสามารถตามหานาฬิกาสีชมพูมาครองได้สำเร็จ พร้อมกับสีฟ้า สีเขียว สีเหลือง สีส้ม ที่อยู่ในเซตเดียวกันมาตามแบบไม่รู้ตัว รวมแล้วก็ 6 เรือน หลังจากนั้นเริ่มสนใจ G Shock มากขึ้น จนได้มีโอกาสไปที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วพบกับนาฬิกาที่หลากหลายรุ่นในยี่ห้อเดียวกัน รวมถึงรุ่นลิมิเตทอีกหลายรุ่นที่หาได้ยากในประเทศไทย จึงอดใจที่จะเป็นเจ้าของอีกไม่ได้ จัดการสนองกิเลสความชอบกลับมากว่า 14 เรือน จนทุกวันนี้ก็หยุดไม่อยู่ ล่าสุดมีทั้งหมดกว่า 60 เรือนแล้ว แต่เรือนที่โปรดปรานที่สุดก็คือเรือนที่สั่งทำขึ้นรูปแบบเอง คือ รุ่น นรต.ทองหล่อ มีเพียง 19 เรือนเท่านั้น” สารวัตรภัทร เล่าที่มาของการเป็นนักสะสมแบบอารมณ์ดี

นายตำรวจหนุ่มมาดเท่ผู้นี้ ยังเล่าต่อว่า สาเหตุที่สะสมนาฬิกา เพราะเหมาะกับสไตล์ตัวเอง และมีกลุ่ม G – Shock Collector ก็ต่างอวดนาฬิกาควบคู่กับการแต่งตัวในสไตล์ต่างๆ นั่นก็หมายความว่า เหล่าเสื้อผ้า รองเท้า ของแบรนด์เนมที่ตัวเองมี ส่วนโมเดลรถมอเตอร์ไซค์ ก็เป็นอีกอย่างที่เริ่มสะสมมาตั้งแต่สมัยเรียน เพราะเป็นคนที่ชื่นชอบรถบิ๊กไบค์มาก แต่เนื่องจากรถจริงมีราคาแพง อยากได้รุ่นไหนก็หาโมเดลรุ่นนั้นมาเก็บไว้ เพื่อให้เป็นแรงจูงใจ จนสามารถเก็บเงินซื้อได้ในที่สุด หลังจากรับราชการตำรวจ และมีกลุ่มเพื่อนแก๊งมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์

นอกจากของสะสมต่างๆแล้ว เวลาว่างของเขา ยังมีกีฬาต่างๆที่ชื่นชอบ สไตล์ไม่ค่อยเหมือนใคร ออกไปในแนวเอ็กซ์ตรีม คือ floo rider หรือ โต้คลื่นจำลอง เนื่องจากกีฬานี้เปิดอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบจึงลองเล่น ก่อนจะติดใจจนทุกวันนี้ เพราะชื่นชอบกีฬาทางน้ำอยู่แล้ว เล่นแล้วสนุก ผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังดำน้ำ และออกทริปดำน้ำกับกลุ่มเพื่อนอยู่บ่อยๆ จนสามารถคัดตัวเพื่อเข้าเรียนหลักสูตรนักดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ ของโรงเรียนทหารเรือ ขณะเดียวกันก็ยังมีกิจกรรมยามว่างที่ท้าทายและสนุกอีกอย่างคือปีนหน้าผาจำลอง ได้ความสนุกตื่นเต้น ได้คิดวางแผน ใช้สติความรอบคอบ สามารถมาประยุกต์ใช้กับงานได้ด้วย

อดีตนักสืบเมืองกรุงทิ้งท้ายว่า ชีวิตการทำงานทุกวันนี้ มีหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ดูแลประชาชน ปราบโจร ให้พี่น้องชาวไทยอยู่อย่างสงบสุข จากการที่สไตล์ชอบเข้ากิจกรรม เข้าสังคมต่างๆก็มีผลในการทำงานทางด้านสืบสวนเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาด้านศักยภาพตนเอง และเหมือนการทำงานไปด้วย เพราะโจรที่มีมาจากหลากหลายอาชีพหลากหลายสถานที่ ตำรวจยุคใหม่จะต้องรู้ทัน ยึดปฏิบัติด้วยคติประจำใจที่ว่า “ตราบใดที่อาชญากรยังไม่หมดไป แล้วตำรวจจะหยุดพักได้อย่างไร”

RELATED ARTICLES