“มันเป็นอาชีพที่ตัวเองใฝ่ฝัน”

รากฏหน้าออกจอโทรทัศน์จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติไปแล้ว

ร.ต.หญิง ปริยา หรือปราง เนตรวิเชียร ผู้ประกาศสาวหน้าหวานแห่งสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5   ลูกสาวอดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นคนเชียงใหม่ตั้งแต่เกิด จบมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สายศิลป์-ฝรั่งเศส

วัยเด็กชอบเรียนบัลเลย์ ทำให้ชอบงานการแสดง การเต้น ทำให้ได้โควต้าไปเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  เคยฝันอยากเปิดโรงเรียนสอนเต้น แต่พอเรียนไปรู้สึกว่าไม่ใช่ หันมาจับงานพิธีกรเลยมองอนาคตไปทางด้านนิเทศศาสตร์

หลังจบเกียรตินิยมอันดับ 1 ของรั้วพระเกี้ยวเลยเบนเข็มไปศึกษาต่อปริญญาโทนิเทศาสตร์ ที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา คว้าเกียรตินิยมอีกเช่นกัน  ช่วงปลายปีสุดท้ายยังมีโอกาสฝึกงานกับสถานีโทรทัศน์ CBS  เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำรายการเกี่ยวกับท่องเที่ยวแล้วขอทำงานต่อ

“สุดท้าย คุณแม่โทรไปบอกว่า ช่อง 5 เปิดรับสมัคร มันเป็นอาชีพที่ตัวเองใฝ่ฝัน ตอนเรียนก็ทำได้หมด ทั้งถ่ายภาพ ตัดต่อ เขียนสคริปต์อยู่เบื้องหลัง อีกทั้งแฮปปี้กับการทำหน้ากล้อง เพื่อนฝั่งก็โอเคกับเรา เลยคิดว่า อยากมาทางนี้แหละ อยู่หน้าจอ ถึงตัดสินใจกลับเมืองไทย” ปรางว่าถึงจุดเริ่มต้นก้าวเข้าสู่วงการ

เป็นผู้ประกาศข่าวตอนปี 2554 นาน 3 ปี ผู้ใหญ่เห็นแววเลยทาบทามเธอเป็นทหาร ปรางเล่าว่า ปรึกษาพ่อแม่ ทั้งคู่เห็นด้วยเพราะเคยรับราชการมาก่อน ทั้งที่ก่อนนั้นไม่คิดจะมาเป็นทหาร ประกอบกับพ่อแม่มองว่า งานข่าวอาจไม่จีรังยั่งยืนเท่าไร เมื่อมีคนยื่นโอกาสมาให้คิดว่า ไม่ใช่ง่ายๆ ก็เลยตัดสินใจเซย์เยส ไปอบรม 3 เดือนก่อนลงประจำสำนักงานเลขานุการ กองทัพบก

ผู้ประกาศสาวคนเก่งยอมรับว่า การไปฝึกทหาร ทำทุกอย่างเหมือนที่เขาฝึกกัน เหมือนเป็นการพิสูจน์ตัวเองด้วยว่า จะทำได้หรือไม่ สนุก แต่ก็เหนื่อย ไม่คิดว่า ชีวิตจะต้องเหนื่อยขนาดนี้ เสร็จแล้วก็กลับมาทำงานข่าวตามเดิม ไม่คิดเหมือนกันจะเข้ามาอยู่ในทีมงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติชนิดไม่ทันตั้งตัว

เธอเล่าว่า ตอนเกิดเหตุระเบิดศาลพระพรหม รัฐบาลจะมีการแถลงข่าวขึ้นมาในนามของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้มีภาษาอังกฤษ และภาษาจีนด้วย เพราะมีผลกระทบหลายฝ่าย ผู้ใหญ่เห็นว่า เราพูดภาษาอังกฤษได้ จึงถูกเรียกตัวไป ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวให้ไปที่กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ด่วน เพราะจะมีแถลง

“ตอนนั้นกำลังจะอ่านข่าวภาคปกติ นายต้องการให้เป็นปรางเลยทิ้งเพื่อนอีกคนอ่านคนเดียว ถามด้วยว่า มีเครื่องแบบอยู่ในรถหรือเปล่า ก็บอกว่าไม่มี คุณแม่ต้องเอาชุดมาส่งให้ ทีนี้เขามองว่ามันดูแข็งไปอยากได้ภาพที่ดูเบาลง เลยให้พี่ต๊อดแต่งเครื่องแบบคนเดียว ตื่นเต้นมาก ต้องมาชี้แจงเรื่องระเบิด เป็นคดีระดับชาติ ก็สั่นนะ เพราะมันเป็นแถลงด้วย ยิ่งครั้งแรกๆ ปรางรู้สึกว่า ออกสดโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ยิ่งตื่นเต้น”

นายทหารหญิงผู้ประกาศข่าวภาษาอังกฤษรับว่า ผ่านวันแรกยังไม่ชิน ใช้เวลาเกือบเดือนก็ยังไม่ชินเพราะอยู่ในสภาวะที่ผิดพลาดไม่ได้ แม้ปัจจุบันความตื่นเต้นจะน้อยลง เพราะต้องแถลงทุกวัน เหมือนเป็นชีวิตประจำวันไปแล้ว ก็มีบ้างที่รู้สึกกดดัน ภูมิใจนะ จากที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก จะมีแฟนข่าวเฉพาะกลุ่มตอนออกอากาศแค่ช่อง 5 มาถึงตรงนี้ คนทั้งประเทศรู้จัก แกมบังคับให้จำหน้าคนนี้ได้

ร้อยตรีคนสวยว่า ต่อไปถ้ามีเหตุการณ์ทำนองนี้อาจจะเป็นเรา เพราะผลตอบรับออกมาดี เรายอมรับว่า พูดภาษาอังกฤษอาจจะไม่ได้อย่างที่ฝรั่งพูด แต่ก็ไม่ได้ แบบคนไทยพูด เราก็มีแบบที่มีความเป็นสำเนียงอยู่บ้าง แต่ฝรั่งฟัง ก็อาจจะยังรู้สึกขัดๆ ว่า ไม่ใช่อย่างที่ฝรั่งพูดอะไรอย่างนี้ แบบผลตอบรับออกมาเยอะๆ ว่า สำเนียงดี หน้าตาพอไปได้ ไม่ใช่ขี้หมู ขี้หมา จะเอาใครมานั่ง

อนาคต เธอคิดว่า ตอนนี้คงเป็นผู้ประกาศไปจนกว่าผู้ใหญ่จะไม่ให้อ่าน ส่วนจะไปทำอะไรต่อหรือ คือ วันนี้เป็นทหารแล้วด้วย จริงๆ วันที่ตัดสินใจเป็นทหาร ก็เหมือนเป็นการตัดสินใจว่าจะไปอย่างนี้เรื่อยๆ ช่วยงานกองทัพ ต้นสังกัดให้ทำอะไรก็คงต้องพร้อมทำ แต่ ณ วันนี้ ยังแฮปปี้กับการอ่านข่าวอยู่ ไม่อึดอัด กับการทำงานตรงนี้ ก็ทำหน้าที่สื่อ ไม่ไปอยู่ฝ่ายไหนฝ่ายหนึ่ง แม้ภาพอาจทำให้คนคิดว่า เราอยู่ฝ่ายหนึ่ง ด้วยบริบท ก็หนีไม่ออก แต่ก็แฮปปี้ และภูมิใจ

“ปรางอาจจะไม่ได้ทำงานในกองทัพทุกวันเหมือนคนอื่น แต่พอมีงานอะไร ปรางก็ได้ทำให้กองทัพ หรือแม้แต่การเป็นผู้ประกาศช่อง 5 ก็เป็นสื่อของกองทัพ ถือว่าทำงานให้กองทัพอยู่ดี “ ผู้ประกาศภาคภาษาอังกฤษหน้าจอคณะรักษาความสงบแห่งชาติยิ้มหวาน

RELATED ARTICLES