ถูกลากลงไปสนามจับ “แพะ” ชน “แกะ” กันสนั่นทุ่งทองหล่อ
พิษการระบาดของ “วายร้ายไวรัสโควิด-19” ต้นตอแห่งระบาดส่วนหนึ่งมาจาก “คริสตัลคลับ” ผับไฮโซชื่อดังในพื้นที่ซอยทองหล่อ 25 ที่มี นายเกียรติพงษ์ คำต่าย เป็นเจ้าของ
จดทะเบียนนาม บริษัท กินซ่า เอ แอนด์ ที จำกัด มีชื่อของ นายพันธนะ นุชนารถ รวมถือหุ้นอยู่ 15 เปอร์เซ็นต์มูลค่าหุ้น 600,000 บาท
เขย่าเก้าอี้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสอบสวนตรวจคนเข้าเมืองเต็มเครื่อง
ข้อเท็จจริงเป็นมาอย่างไร
เจ้าตัวรีบแจงผ่าน สำนักข่าวอิศรา ในทันทีที่ตกเป็นกระแสข่าวเอี่ยวสถานบันเทิงชนวน “คลัสเตอร์วายร้าย” ที่กระจายเชื้อลุกลามไปทั่วประเทศจนตัวเลขคนป่วย ทะลุครึ่งหมื่น แล้วภายในระยะเวลาแค่ 13 วัน
นายพลตำรวจหนุ่มยืนยันกับ สำนักข่าวอิศรา ว่า ร่วมลงทุนถือหุ้นในบริษัท กินซ่า เอ แอนด์ ที จำกัด ของนายเกียรติพงษ์ คำต่าย จริง
แต่เป็นการลงทุนในส่วนของร้านอาหารญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านอื่น
เขาบอกด้วยว่า ในส่วนร้านอาหารญี่ปุ่น ไม่ได้รับการปั่นผลจากการถือหุ้นมาสักระยะแล้ว
เมื่อ สำนักข่าวอิศรา ถามว่า รู้จัก นายเกียรติพงษ์ คำต่าย ได้อย่างไร ทายาท พล.ต.ท.สุนทร นุชนารถ อดีตผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจย้อนความว่า รู้จักกันมานาน ตั้งแต่สมัยที่ยังมีตำแหน่งเป็นสารวัตร ไปรับประทานอาหารญี่ปุ่นที่ร้านแห่งหนึ่ง แล้วบังเอิญมีโอกาสพบกัน ตอนนั้น นายเกียรติพงษ์ยังมีอาชีพเป็นเชฟอยู่
“เขาที่เป็นคนสอนให้ผมทำธุรกิจ เขามีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลมาก ผมก็สนใจเรื่องการลงทุนธุรกิจอยู่ เลยไปร่วมลงทุนด้วย ผมเกี่ยวข้องเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับงานอื่น ๆ” พล.ต.ต.พันธนะย้ำคำเดิม
บอกด้วยว่า รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นหมดแล้ว
ข้อมูลทุกอย่างมีการรายงานให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติด้วยเช่นกัน
กระแสข่าวของร้านคริสตัลคลับที่เกิดขึ้น
“ผมไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไร ผมเกี่ยวข้องแค่เรื่องร้านอาหารญี่ปุ่น เรื่องอื่นผมไม่เอาด้วย ไม่ใช่แนวทางของผม” นายพลคนดังประกาศชัดเจน
จริงเท็จอย่างไร พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ไม่ยอมตกเป็นฝ่ายโดนสาดโคลนโจมตี
แถมมีบางกลุ่มมะรุมมะตุ้มรุมกินโต๊ะ
จ้องล้มกระดาน
ฟาดงวงฟาดงาพยายามขุดคุ้ยแถไปหา “แม่ทัพใหญ่” ของสำนักปทุมวันเอี่ยวอีกคน
เสมือนเกมกลของคนขั้วอำนาจหน้าเก่า
