ต้องดูแลคนของเรา

 

ไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์วิกฤติที่เกิดขึ้น

นอกจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อวายร้ายไวรัส สายพันธุ์มรณะ ที่พุ่งทะลักสะสมเกินกว่าหมื่นคนแล้ว ผู้เสียชีวิตยังทะลุเป็นสถิติสูงเป็นประวัติการณ์

นับตั้งแต่ ไข้หวัดโควิด19 เข้าระบาดในประเทศไทยเมื่อปลายปี 2562

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กังวลที่สุด คือ ตัวเลขผู้ใต้บังคับบัญชาติดเชื้อตามมาด้วย แถมต้องกักตัวอีกจำนวนมาก

หลายรายถึงขั้นเสียชีวิต

“พวกเราข้าราชการตำรวจทุกนายอยู่ในจุดที่สุ่มเสี่ยง ด้วยภาระหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดกับประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” แม่ทัพปทุมวันตะหนักถึงการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นอย่างดี

ก่อนหน้าได้ “ส่งสาร”ถึงเพื่อนข้าราชการตำรวจเนื่องในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส

“ผมในนามของผู้บังคับบัญชา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยต่อเพื่อนข้าราชการตำรวจทุกนาย รวมตลอดไปถึงครอบครัว “

อยากให้ช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน ยึดถือปฏิบัติตนตามมาตรการและแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยเคร่งครัด

“ให้รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต ดังอุดมคติตำรวจที่เราได้ปฏิญาณและยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอดนับแต่วันแรกที่เข้ามารับราชการ”

ขอให้ทุกท่านมีความพร้อม ตั้งใจ มุ่งมั่น ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้วยความเสียสละอดทน โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง เพื่อนร่วมงานและประชาชน

เสมือนคนในครอบครัวของท่าน

ระมัดระวังไม่ให้เป็นการซ้ำเติมผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อให้ประชาชนชาวไทยทุกคน ได้ผ่านพ้นวิกฤติการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครั้งนี้ไปได้ด้วยดีพร้อมกัน

ทว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มแย่ลง

เจ้าของนามเรียกขาน “พิทักษ์ 1” ถึงต้องลงไปร่วมคลี่คลายความตึงเครียดด้วยตัวเองมากกว่าส่งข้อความ ผ่านตัวหนังสือ แบบไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

เขาระดมคณะทำงาน  ประกอบด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ  ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.โสภณรัช สิงหจารุ แพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ร่วมกับ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตลอดจนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9  และทุกหน่วยงานในสังกัด

วาดแผนการดำเนินงานในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด 19 คุกคามอย่างหนัก

เบื้องต้นเน้นย้ำการดูแลประชาชนร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุข

ให้ศูนย์วิทยุ 191 สนับสนุน 1168 และ 1169 ด้วยการเพิ่มคู่สาย 24 ชั่วโมง รับแจ้งเหตุประชาชนผู้ป่วยและมีจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามผลการประสานงานตามคู่สาย

สนับสนุนเครื่องมือสื่อสารพิเศษของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้รถพยาบาลเพื่อประโยชน์ในการระบุตำแหน่งพื้นที่ในการออกรับผู้ป่วย ควบคู่กับการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนโรคเพื่อหาสาเหตุเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

“ต้องดูแลคนของเรา” อีกเป้าหมายสำคัญที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ไม่ยอมหมางเมินลูกน้องตัวเอง

เขาห่วงความปลอดภัยของผู้บังคับบัญชาในการปฏิบัติงาน

ต้องจัดทำคู่มือการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เช่น การรับแจ้งความ การระงับเหตุ การสืบสวน การสอบสวน การจราจร การบริการประชาชนต้องมีอุปกรณ์เครื่องมือป้องกัน อุปกรณ์ทำความสะอาด

หากเจ็บป่วย ข้าราชการตำรวจและครอบครัว ต้องมีการดูแลรักษาอย่างเป็นระบบจากโรงพยาบาลตำรวจในการรับผู้ป่วย ส่งไปตามสถานที่ที่แบ่งออกเป็น 3  ระดับ สีเขียว สีส้ม  สีแดง

“ผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้องใส่ใจ และทราบว่าลูกน้องใครป่วย ใครกักตัว มีการอัพเดตยอดทุกวัน” ผู้นำสีกากีจริงจัง

อย่าทิ้งลูกน้องเผชิญวิกฤติระลอกนี้อย่างเดียวดายเพียงลำพัง

RELATED ARTICLES