ฉากความสำเร็จ

 

โรงพักก็ไม่ต่างจากโรงพยาบาล

หากไม่เจ็บป่วยหรือมีเรื่องทุกข์ร้อน ชาวบ้านส่วนใหญ่คงไม่ค่อยอยากแวะเวียนเกี่ยวข้องเท่าใดนัก

ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เกิดคดีป่วนกรุง คนร้ายใช้หินใส่หนังสติ๊กยิงใส่รถที่สัญจรไปมาบนถนนรัชดาภิเษก

อาจเหมือนคดีเล็ก แต่ไม่เล็กสำหรับความเสียหายกับยานพาหนะที่ตกเป็นเหยื่อ

เพราะมันไม่ได้มีแค่รายเดียว 

พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร ตั้งข้อสันนิษฐานในทันทีที่มีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความ เขาให้ลูกน้องรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นได้ความว่า ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม- 27 เมษายน 2564 ระหว่างเวลา 16.00-01.00 น. ของแต่ละวัน มีคนร้ายก่อเหตุยิงหนังสติ๊กใส่ลูกหิน บริเวณทางลอดอุโมงค์ข้ามแยกรัชดา-สุทธิสาร  ทั้งรถยนต์ ร้านค้า รถประจำทาง

รวมทั้งหมด 19 ครั้ง ใน 4 พื้นที่โรงพักต่อเนื่องโรงพักพหลโยธิน สุทธิสาร ห้วยขวาง และดินแดง

มันไม่ใช่เป็นการ “ปาหิน” อย่างที่หลายคนเข้าใจในตอนแรก

นายตำรวจผู้กำกับโรงพักสุทธิสารหอบแฟ้มข้อมูลเดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ขอ เปิดไฟเขียว เป็นตัวหลักตาม “มารยาทนักสืบ” ในการคลี่คลายด้วยความมั่นใจในประสบการณ์งานสืบสวนที่มีอยู่ครบเครื่อง เพราะเป็นพื้นที่ต่อเนื่องคาบเกี่ยวหลายโรงพัก

มี พ.ต.ท.พีรรัฐ โยมา รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลดินแดง พ.ต.ท.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน กองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 1 และกองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 2 ร่วมแบ่งปันข้อมูล

ใช้เวลาแกะรอยอยู่ไม่กี่วันได้เค้าของผู้ต้องสงสัย

พ.ต.อ.ภูริสนำลูกน้อง “เดินดิน” และ “เดินอากาศ” ตั้งแต่สอบปากคำพยานแวดล้อม ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดเพื่อวางแนวทางการสืบสวน

นับเป็นโชคที่การติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในพื้นที่เสี่ยงของการเกิดอาชญากรรม มีการเติมประสิทธิภาพของกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวีในการ บันทึกเสียง ได้ด้วย

เสียงหินกระทบกระจกรถเมล์เพียง “แป๊ะเดียว” พ.ต.อ.ภูริสนั่งไล่รถที่ผ่านไปมา กระทั่งสอดคล้องกับรถแท็กซี่คันหนึ่งที่สวนมาพอดี

ปัญหามีอยู่ว่าหลายคดีที่เกิดขึ้นกับมีรถแท็กซี่ต่างสีจำนวน 3 คันอยู่ในข่ายต้องสงสัย

การไล่ข้อมูลยังคงดำเนินการต่อไป

นายตำรวจหนุ่มเชื่อว่า คนร้ายคนเดียว แต่สลับรถในการตระเวนรับผู้โดยสารและก่อเหตุป่วน

ไม่นานเขาสกรีนรถแท็กซี่ต้องสงสัยทั้ง 3 คันเป็นของ อู่แท็กซี่ณรงค์ฤทธิ์ ซอยสุขสวัสดิ์ 30 แยก 10 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร

เจ้าตัวไม่รีรอรีบเดินทางข้ามเจ้าพระยาไปในทันทีตอนกลางดึก

นำไปสู่การควบคุมตัว นายไพรวัลย์ หรือ คิด แอ้ชัยภูมิ  อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาได้ที่ห้องพักย่านดังกล่าว

สารภาพหน้านิ่งบอกว่า ทำไปเพราะต้องการระบายอารมณ์เนื่องจากความเครียด ประกอบกับแค้นที่อดีตเคยเป็นคนขับรถประจำทางแล้วถูกออกจากงาน

ปิดแฟ้มคดีได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เพราะความใส่ใจไม่ปล่อยผ่านของนายตำรวจหัวหน้าโรงพักสุทธิสาร

 

 

RELATED ARTICLES