รักในสิ่งที่กำลังทำ ทำอย่างมีความสุข

 

ทุกอุปสรรคจะทำให้เราแข็งแกร่ง ทำให้เติบโตอย่างเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น  ไม่มีงานไหนไม่มีอุปสรรค อุปสรรคบางอย่างที่เราต้องเจอ เป็นบททดสอบชั้นดีของเราเลยนะ”  มุมมอง สำหรับอุปสรรคปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของคุณลูกเกดเกษทิพย์ อัจฉริยะสุขสันต์ สาวสมัยใหม่ที่สวยและเก่ง อัธยาศัยดี  ประสบการณ์ทำงานหลากหลายอาชีพ มีหน้าที่ความรับผิดชอบ ทั้งเป็นเลขานุการ โปรดิวเซอร์ และยังเป็นกราฟฟิกดีไซน์อีกด้วย

เธอจบจากชั้นมัธยมจากโรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา ระดับปริญญาตรี สาขาศิลปกรรม (ออกแบบนิเทศศิลป์)  ปัจจุบันทำงานในหลายหน้าที่ หลายตำแหน่ง เพราะในแต่ละตำแหน่งมีความพิเศษของแต่ละตำแหน่งไม่เหมือนกัน แตกต่างกันไป

“คิดว่างานทุกอย่างเป็นการฝึกประสบการณ์ เป็นการฝึกทักษะ แล้วก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองทำอะไรได้เก่งและดีเลย เพราะยังคิดเสมอว่าเราสามารถพัฒนาและยังคงต้องพัฒนาทุกๆอย่างต่อไปเรื่อยๆ ในทุกๆ ตำแหน่งงานที่ได้รับมอบหมาย” คุณลูกเกดกล่าวย้ำด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

ส่วนคติประจำใจที่ใช้ยึดเหนี่ยวในการดำรงชีวิตนั้น เธอบอกว่า คติประจำใจทุกวันนี้ คือ สิ่งไหนที่ทำด้วยใจ สิ่งนั้นจะออกมาดี เชื่อเสมอว่า การที่เรารักในสิ่งที่เรากำลังทำ เราจะทำมันอย่างมีความสุข ถึงแม้มันจะเหนื่อย หรืออาจจะมีท้อบ้าง แต่ผลลัพธ์ของทุกอย่างที่เราตั้งใจและลงมือทำนั้น มันจะสวยงามเสมอ อย่าไปคิดถึงผลที่จะได้รับ ถ้าเราทำมันอย่างเต็มที่ และถึงแม้ว่าถ้าเราจะตั้งใจทำมันอย่างสุดความสามารถแล้วนั้น แต่มันก็ยังไม่เป็นตามที่เราหวังใจ ก็อย่ามัวเสียใจ นั่งโทษและคิดซ้ำไปซ้ำมากับความผิดพลาดนั้นๆ จงเก็บเอาทุกความผิดพลาดมาเป็นบทเรียนและประสบการณ์ในการก้าวต่อไปในชีวิต

ส่วนแบบฉบับ ต้นแบบ ถือเป็น “ไอดอล”ในการใช้ชีวิตทุกวันนี้คือ คนในครอบครัว ทั้งคุณย่า คุณแม่ และพี่สาว อย่างคุณย่าต้องบอกเลยว่าเป็นไอดอลของผู้หญิงเก่ง แกร่ง แต่คุณย่าดุสุดๆไปเลยค่ะ ส่วนแม่ เป็นไอดอลในเรื่องของความอดทน

“เกดอาจจะได้อยู่กับแม่ไม่นานเพราะคุณแม่เสียตั้งแต่ตอนอายุ 3 ขวบค่ะ แต่ได้ฟังเรื่องราวของคุณแม่มาเยอะมาก และคนสุดท้ายคงเป็นพี่สาว เพราะด้วยความที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ พี่สาวเป็นตัวอย่างการใช้ชีวิตให้กับเราทุกอย่าง หลักๆเรื่องความกตัญญูแน่ๆ ความเอาใจใส่ ความเข้มแข็ง การดูแลคนรอบข้าง คอยบอกคอยสอนคอยทำให้เราเห็น จนเราสามารถเป็นอย่างเขาได้ ตอนนี้ก็ภูมิใจในตัวเองระดับหนึ่งเลยทีเดียว” เจ้าตัวระบายมุมมองชีวิต

แน่นอนว่าทุกคน ทุกอาชีพ ทุกเพศ เมื่อถึงช่วงหนึ่งมักมีอุปสรรคปัญหามาทดสอบชีวิต มากหรือน้อยก็แตกต่างกันไปตามสถานการณ์และความรู้สึก เช่นเดียวกับคุณลูกเกดเห็นว่า ทุกอุปสรรคจะทำให้เราแข็งแกร่ง ทุกอุปสรรคมันจะทำให้เราเติบโตอย่างเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น หรือเป็นคนที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น คนที่ไม่ได้ทำงานก็จะไม่เจออุปสรรค ไม่มีงานไหนไม่มีอุปสรรคหรอก ไม่มีงานอะไรได้มาง่ายๆ เราคิดว่าอุปสรรคบางอย่างที่เราต้องเจอต้องก้าวข้ามผ่านมา มันคือบททดสอบชั้นดีของเรา

ขณะเดียวกัน เธอแนะเคล็ดไม่ลับการเอาชนะอีกว่า  วิธีก้าวผ่านความท้อแท้หมดกำลังใจ บางทีต้องใช้คำว่า “ช่าง….” คำนี้ใช้ได้จริงๆ หมายถึง ช่างมันเถอะถ้าอะไรที่มันทำให้เราแย่ หรือทำให้เราไม่สบายใจ ณ ตอนนี้ พรุ่งนี้เดี๋ยวมันก็ดี พรุ่งนี้เอาใหม่ พรุ่งนี้เริ่มใหม่ เวลาที่เราทำงานและได้เจอคนเก่ง เราจะรู้สึกว่าตัวเองโชคดี เพราะจะได้เรียนรู้วิธีการทำงาน และทำให้เราอยากจะเก่งเหมือนเขา ทำให้เราจดจำวิธีการทำงาน แนวคิดต่างๆ จำแล้วเอามาปรับใช้กับชีวิตเราบ้าง

สำหรับคำว่า “สวยและเก่ง” เธอบอกว่า ยุคนี้สวยอย่างเดียวไม่พอ เก่งอย่างเดียวก็ไม่ได้ ส่วนใหญ่ต้องมีทั้งสองสิ่งขนาบมาคู่กัน คนสวยในมุมมองของเราคือคนที่มีความคิดดี คนมองโลกในแง่ดี พูดจาดี รู้ว่าควรจะพูดอะไรกับใครแบบไหน แต่ต้องอยู่ในพื้นฐานของความเป็นจริง ส่วนผู้หญิงเก่งคือผู้หญิงที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เป็นอย่างดี แก้ไขปัญหาตามสถานการณ์ได้ คนที่จัดการกับปัญหา รับมือกับทุกๆปัญหา และทุกสถานการณ์ที่เข้ามาได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน รู้ว่าควรรับมือและจัดการกับอะไรแบบไหน หรือจัดการกับใครอย่างไร ต้องศึกษาคนเป็น รวมถึงเข้าใจชิ้นงานนั้นๆ เข้าใจความคิดของคนของงาน และตอบโจทย์สิ่งที่เขาคิดได้ นั่นคือคนเก่ง

ส่วนเป้าหมายในชีวิต สาวมากความสามารถยอมรับว่า  ชีวิตต้องประสบความสำเร็จ ความสำเร็จไม่ได้หมายถึงมีเงินเป็นร้อยล้าน พันล้าน แต่ต้องประสบความสำเร็จโดยวิธีคิด วิธีใช้ชีวิตในการดำเนินชีวิต ถ้าเรารู้สึกว่า เราสามารถทำให้คนที่เรารักไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือใครๆ วางใจและหายห่วงในการที่เราใช้ชีวิตในทุกวันนี้ได้ นั่นก็คือ เราประสบความสำเร็จแล้ว  แต่ถ้ามองในมุมมองของความสำเร็จในด้านของการทำงาน ก็คงตอบว่า มันยังคงจะสำเร็จได้มากกว่านี้อีกแน่นอน

เธอยังเปรียบเทียบถึงความเหมือนและแตกต่างของผู้หญิงสมัยก่อนกับยุค 5G ในปัจจุบันว่า ผู้หญิงสมัยก่อนอาจจะต้องมีความเป็นผู้หญิงสูงมาก ๆ อาจจะต้องจำกัดอยู่ในกรอบ อยู่ในการใช้ชีวิตของความเป็นผู้หญิง แต่ส่วนตัวเป็นผู้หญิงที่ไม่ค่อยเป็นผู้หญิงเท่าไหร่เลยคิดว่าแตกต่างกัน ในด้านของความคิดการกระทำและการแสดงออก แล้วก็ตอนนี้ผู้หญิง ผู้ชายก็เท่าเทียมกัน ผู้หญิงบางคนสามารถดูแลตัวเองได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ โดยไม่ต้องขอร้อง หรือพึ่งพาผู้ชายเลยก็ยังได้

RELATED ARTICLES