ภูมิใจในความเป็นตำรวจของพ่อ

ลูกสาวสุดรักสุดห่วงของ พ.ต.ท.ศานติ กรเกษม รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนภูธรภาค 2

“ขนุน” ศาทินี กรเกษม ทายาทคนเล็กในบรรดาพี่น้อง 2 คน จบชั้นประถมโรงเรียนไผทอุดมศึกษา ไปต่อมัธยมต้นโรงเรียนเซนต์ฟรังซิลเซอร์เวีย คอนแวนท์ ก่อนเพิ่งจบชั้นมัธยมปลายโรงเรียนสตรีวิทยา 2

ในวัยเพียง 17 ปี เด็กสาวลูกนายตำรวจนักสืบมีความฝันไปเรียนต่อต่างประเทศ แม้ยังไม่กำหนดทิศทางเป้าหมายชัดเจนว่า โตขึ้นตัวเองจะเลือกอาชีพอะไร แต่เธอมีความมุ่งมั่นและตั้งใจจะเดินหน้าเรื่องการศึกษาอย่างจริงจัง มีพ่อและแม่สนับสนุนเต็มที่

“คุณพ่อไม่ว่า บอกให้ไปลองดู แรงบันดาลใจเกิดขึ้นตอนได้ไปเที่ยวอังกฤษกับแม่ รู้สึกอยากจะมาเรียนที่นี่” ขนุนว่า เธอจึงเตรียมเดินทางลัดฟ้าข้ามโลกไปเริ่มต้นเรียนภาษาปรับพื้นฐานก่อนที่เมืองเคนต์ มณฑลที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหราชอาณาจักร ใกล้มหานครลอนดอนที่คนไทยมักนิยมจะไปเรียนภาษาปรับพื้นฐานอยู่ที่นั่น

“ตอนเด็กๆ ไม่เคยอยากคิดเป็นอะไรเลย อนาคตก็ยังไม่รู้ เหมือนว่า ถ้าสมมติหนูอยู่เมืองไทยก็คงอยากเรียนพวกภาษา เพราะตอนเรียนมัธยมปลาย อยู่แผนศิลป์-จีน ก็ไม่ได้คิดว่าจะได้ไปเรียนที่อังกฤษ สุดท้ายไม่ได้สอบมหาวิทยาลัยที่ไหน เพราะว่ากะจะไปโน่นเลย” เธอบอกและว่า หากได้ภาษาแล้ว ใช้ชีวิตในต่างแดนได้ คงลงเรียนด้านบริหาร เพื่อต่อยอดทำธุรกิจในภายภาคหน้า

สำหรับความสัมพันธ์พ่อลูก ขนุนยิ้มแบบเขิน ๆ รับว่า สนิทกับพ่อมาก แม้ว่า ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะพ่อต้องไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยมาก จะเจอกันส่วนใหญ่วันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะพากันไปกินข้าวนอกบ้านเป็นวันเวลาของครอบครัว พ่อสอนเสมอ ย้ำเตือนทุกคนเกี่ยวกับมารยาทการเข้าสังคม เวลาอยู่บนโต๊ะอาหาร ถ้าเราเด็กสุดก็ต้องดูแลทุกคน คอยเทกแคร์ผู้หลักผู้ใหญ่

เธอเล่าอีกว่า เวลาพ่อไปเจอคดีอะไรมาก็มักจะมาเล่าเตือนภัยหลายอย่างให้เราฟัง มีแม่คอยย้ำอีกที เช่น พวกมิจฉาชีพล่อลวงเหยื่อทางเฟซบุ๊ก คดีการลักพาตัว พ่อจะเจอมาแล้วทั้งนั้นแล้วมาเล่าให้เราฟังเผื่อจะได้รู้เท่าทันคนร้าย ระมัดระวังภัยรอบตัว โชคดีที่ครอบครัวไม่สนับสนุนให้จมอยู่ในโลกโซเชียล เวลาไปไหนมาไหนก็ไม่ได้ไปคนเดียว มักจะมีพี่ชายไปด้วย แต่ไม่ค่อยได้เที่ยวบ่อยด้วย พ่อเลยไม่ค่อยห่วง “ส่วนการใช้ชีวิตในเมืองนอก คงต้องอยู่คนเดียว ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร คุณพ่อคุณแม่ก็กล้าให้ไป คงอยากให้หนูลองใช้ชีวิตทำเอาด้วยตัวเองดูมากกว่า”

ลูกสาวคนเดียวของบ้านกรเกษมสารภาพว่า เป็นห่วงที่เห็นพ่อทำงานหนัก รู้ว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจ ตอนเด็กจะไม่เข้าใจ แต่ก็รู้ว่า พ่อเป็นคนทำงาน รู้ว่า พ่อเหนื่อย ออกตามคนร้ายตามต่างจังหวัดนานหลายวัน หายไปเลย ต้องโทรศัพท์ไปหา เมื่อก่อนอยู่ในกรุงเทพฯ พอย้ายไปต่างจังหวัดยิ่งไม่ค่อยได้เจอ แต่ไม่รู้สึกว่า ขาดหายไป ถ้ามีเวลา ครอบครัวเราจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ แบบว่า ชินแล้ว เพราะรู้ว่าพ่อต้องทำงาน

“แต่เวลาคุณพ่อกลับมาบ้าน บางทีหนูรู้สึกไม่ค่อยดี แบบว่า เป็นห่วง แต่จะไม่พูด ล่าสุดคุณพ่อไปตามจับคนร้ายแล้วพลาดล้มข้อเท้าแพลง ถึงกระนั้นคุณพ่อก็จะไม่ค่อยดูแลตัวเอง หนูต้องเอายาไปให้ แต่ไม่ได้เปิดจุกเจาะรู อยากรู้เหมือนกันว่า คุณพ่อจะทาไหม ปรากฏว่า คุณพ่อก็วางไว้ ไม่ได้ทางอยู่ดี นี่แหละนิสัยคุณพ่อหนู” เธอหัวเราะ

ขนุนบอกว่า ภูมิใจในความเป็นตำรวจของพ่อ รู้สึกไม่ดีทุกครั้งเวลามีคนมาว่า ตำรวจ เพราะอย่างน้อย พ่อเราก็เป็นตำรวจ ก็ต้องยอมรับว่า ตำรวจบางคนไม่ดีจริง ก็สมควรถูกตำหนิ แต่สังคมไม่ควรเหมารวม เนื่องจาก ตำรวจไม่ได้เลวกันทุกคน

 

RELATED ARTICLES