พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจับกุมนายนเรศ จำนงค์ อายุ 43 ปี ที่บ้านเลขที่ 419/133 หมู่บ้านฮิลฮัท ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี อดีตพนักงานบริษัทเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์มือถือรายใหญ่แห่งหนึ่ง ข้อหา ลักทรัพย์นายจ้าง และฟอกเงิน ขณะที่กำลังอีกชุดเข้าจับกุม น.ส.พัชรลักษณ์ แหวนวงค์ อายุ 46 ปี ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านบางนา
พฤติกรรมของทั้งคู่สมัยเป็นพนักงานบริษัทดังกล่าวได้ร่วมกันขโมยบัตรเติมเงินโทรศัพท์จากคลังสินค้าบริษัทออกมาจำหน่าย จนทำให้บริษัทได้รับความเสียหายเป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท ต่อมาบริษัทผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กองบังคับการปราบปรามตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ พบว่า นายนเรศ จำนงค์ เป็นพนักงานฝ่ายเทคนิตทำหน้าที่สั่งผลิตบัตรเติมเงินและเปิดใช้บัตร ส่วน น.ส.พัชรลักษณ์ แหวนวงศ์ ตำแหน่ง
โ ษัทเครือข่ายสัญญานโทรศัพท์รายใหญ่แห่งหนึ่งร้องทุกข์กับทางกองปราบปรามให้ช่วยตรวจสอบหลังบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ ใบละ 60 บาท และใบละ 100 บาท จํานวน 3,120,000 ใบ มูลค่ากว่า 240 ล้านบาท สูญหายไปจากคลังสินค้า จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง กระทั่งทราบทราบว่า นายนเรศ พนักงานตำแหน่งSupervisor, Supply Chain Production หรือผู้ที่มีหน้าที่สั่งผลิตบัตรเติมเงิน และเปิดใช้งานบัตรเติมเงินของบริษัท กับ น.ส.พัชรลักษณ์ พนักงานตําแหน่งเจ้าหน้าที่อาวุโสมีหน้าที่เรียกสินค้าจากบริษัทไปปล่อยขายในตลาด ทั้งคู่ถือเป็นพนักงานเก่าแก่ทำงานมานานร่วม 20 ปี เพิ่งก่อเหตุขโมยบัตรเติมเงินออกมาจากคลังเพื่อนำไปจำหน่ายให้ร้านค้าปลีกหลายพื้นที่ในราคาต่ำกว่าตัวแทนจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2561 ได้เงินมากว่า 146 ล้านบาท กระทั่งต้นปี 2563 ทั้งสองได้อาศัยจังหวะที่ทางบริษัทปรับเปลี่ยนโครงสร้างพนักงาน ชิงลาออกจากงานไปก่อนที่ทางบริษัทจะตรวจพบความผิดปกติ
