ตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ดูแลสวัสดิการของข้าราชการตำรวจ และครอบครัว รวมถึงการให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินของตำรวจให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ขานรับนโยบายผู้บังคับบัญชา ไปดำเนินโครงการเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง เพราะเล็งเห็นความสำคัญของชีวิตความเป็นอยู่ของข้าราชการตำรวจ ปรับปรุงพื้นที่หน้าโรงพักบริเวณท่าริมแม่น้ำแม่กลอง ด้านหน้าโรงพัก ดัดแปลงให้เป็นสะพานเดิน และทำกระชัง สำหรับใช้เลี้ยงปลาทับทิม
พ.ต.อ.เจษฎา บอกว่า มีแนวคิดและแรงบันดาลใจจากการลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับชาวบ้าน ได้คำแนะนำจากนายวรชัย แสงวนิช เจ้าของรีสอร์ตบ้านปลาทับทิมแม่กลองเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงปลาทับทิมในกระชังตามแนวพระราชดำรัสปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ทำเป็นอาชีพมานานกว่า 20 ปี อีกทั้งยังทำไว้ให้กับนักท่องเที่ยว หรือลูกค้ามาเที่ยวชมศึกษาศูนย์เรียนรู้ด้วย
เจ้าตัวตัดสินใจหันมาพัฒนาพื้นที่ริมน้ำด้านหน้าโรงพักบางคนทีให้เกิดประโยชน์เพื่อส่งเสริมให้ตำรวจมีอาชีพเสริม ก่อนทำหนังสือขออนุญาตสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรสงคราม กรมเจ้าท่า ขอใช้พื้นที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ทำโครงการส่งเสริม และพัฒนาอาชีพการเพาะเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ในการประกอบอาชีพของตำรวจ และประชาชนทั่วไป
“เริ่มต้นปล่อยปลาทับทิมชุดแรก 999 ตัว ใช้ระยะเวลาเลี้ยงประมาณ 3 เดือนกว่า จากนั้นจะนำปลาทับทิมที่เลี้ยงไว้ มาใช้ประโยชน์ต่อไป จุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมข้าราชการตำรวจ และครอบครัวให้มีอาชีพเสริม สามารถเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายในครอบครัวช่วงสถานการณ์วิกฤติโควิด19 ได้ไม่น้อย” พ.ต.อ.เจษฎาว่า
ทั้งนี้ผลผลิตจากปลาทับทิมที่่เลี้ยงไว้สามารถนำมาเป็นอาหารในโครงการอาหารกลางวันของโรงพัก และแจกจ่ายให้กับครอบครัวตำรวจไปทานที่บ้าน แบ่งไว้เพื่อจำหน่ายพอให้ได้ค่าอาหารที่ใช้เลี้ยงปลา ค่าซื้อลูกปลาที่จะนำมาเลี้ยงใหม่อีกส่วน หากมีข้าราชตำรวจที่จะต่อยอดขยายผลเพิ่มกระชังทำเป็นอาชีพเสริม สามารถศึกษาลงทุนทำขยายจากที่จัดทำเป็นต้นแบบไว้ให้ได้ทันที
ที่ผ่านมา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางคนทีบอกด้วยว่า ได้ปรับปรุงพื้นที่ข้างโรงพักริเริ่มทำร้านสวัสดิการชานมไข่มุกของโรงพัก ประสานขออนุญาตนายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามผ่านสำนักพระพุทธศาสนา ขอใช้พื้นที่เนื่องจากเป็นพื้นที่เช่าธรณีสงฆ์จัดทำเพื่อส่งเสริมให้ตำรวจมีอาชีพเสริม หรือสมาชิกในครอบครัวที่ถูกออกจากงาน ตกงานในช่วงวิกฤติโควิดได้มีงานทำสร้างรายได้บรรเทาความเดือดร้อน แก้ปัญหาหนี้สิน และยังได้ศึกษาวิธีการประกอบอาชีพค้าขาย กรรมวิธีในการชงชา กาแฟ เครื่องดื่มต่าง ๆอีกด้วย
“รายได้บางส่วนได้นำเข้ามาเป็นกองทุนสวัสดิการของข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางคนที อย่างน้อยทำให้ได้ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อโรคระบาด บรรเทาความเดือดร้อนบ้าง และทำให้ได้มีที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ พบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานข้างเคียงที่อยู่บริเวณส่วนราชการอำเภอบางคนที” พ.ต.อ.เจษฎาทิ้งท้าย