อำนาจอยู่ในมือใคร
คำตอบที่ได้อาจไม่ได้อยู่ในมือคุณ
การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจทุกครั้งที่ผ่านมาหลายยุค คำว่า อาวุโส ความรู้ ความสามารถ ไม่อาจใช้เป็น “ใบเบิกทาง” สู่ความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน
กลายเป็นตำนานของวังวนที่ต้อง “วิ่งเต้น” ดิ้นรนหา “เส้นสาย” ทำลายระบบคุณธรรม
โยนวิบากกรรมที่ไว้แก่คนทำงานทว่าขาด “ผู้เป็นนาย” คอยส่งเสริม
สัจธรรมไม่อาจสลัดพ้นวงจรการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่สร้างความเจ็บปวดมาแล้วหลายชีวิต
ดูเหมือน “อำมหิต” แต่จำต้องยอมรับมัน
ขอเพียงอย่างเดียว “วางคนให้เหมาะสมกับเนื้องาน” อย่าร่วมกันสร้าง “ผลไม้พิษ” ผลิต เชื้อปลาเน่า เอาองค์กรตำรวจไป “ปู้ยี่ปู้ยำ” ดั่งการกระทำของ “มารดำ-มารขาว” เหมาผลประโยชน์นอกระบบทุกรูปแบบเข้ากระเป๋าตัวเอง
ทันทีที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แจกจ่ายบัญชีเรียงลำดับอาวุโสระดับ รองผู้บังคับการ ถึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย “นายพล” วาระประจำปี 2564
เริ่มมีการกะเก็ง “ตัวเต็ง” จากผู้สันทัดกรณีกันบ้างแล้ว
จริงเท็จอย่างไรล้วนเป็นการคาดเดาอย่าเพิ่งเหมาเอาไปเลี้ยงฉลองความสำเร็จกันล่วงหน้า
กลับมาสนใจเก้าอี้ “ผู้บัญชาการ” ว่างแน่จากการเกษียณอายุราชการ 11 ตำแหน่ง
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ท.นิทัศน์ ลิ้มศิริพันธ์ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ท.วิชิต ปักษา ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน พล.ต.ท.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล
พล.ต.ท.ชวลิต แสวงพืชน์ ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พล.ต.ท.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พล.ต.ท.สมชาย เกาสำราญ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ทำหน้าที่นายตำรวจประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติ) พล.ต.ท.สมชาย พัชรอินโต ผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง พล.ต.ท.อภิรัต นิยมการ ผู้บัญชาการศึกษา
เดิมพันเที่ยวนี้ถึงสูง
เมื่อ “แม่ทัพหลัก” ได้เวลาปรับเปลี่ยนเก้าอี้หลาย 10 ตำแหน่งรวมกับที่ต้องขยับเลื่อนขึ้นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
จับตากลุ่มพยายาม “สไลด์ออก” จากหน้างานที่ไม่ได้ใช้ความถนัดของตัวเองไปลงตำแหน่งหลักที่น่าทำประโยชน์ให้หน่วยมากกว่า
อาทิ พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ จเรตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 เกษียณอายุปี 2565 พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จเรตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 43 พล.ต.ท.ณพวัฒน์ อารยางค์กูร จเรตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 42 เกษียณอายุปี 2570 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จเรตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 เกษียณอายุปี 2566 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ นักเรียนนายร้อยอบรม เกษียณอายุปี 2568 พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ทำหน้าที่ประสานงานทำเนียบรัฐบาล) นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 42 เกษียณอายุปี 2568 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ทำหน้าที่ประสานงานรัฐสภา) นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 40 เกษียณอายุปี 2568 พล.ต.ท.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 40 เกษียณอายุปี 2567
ส่วนระดับ รองผู้บัญชาการ จัดแถวอาวุโส 10 อันดับแรก
พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 37 เกษียณอายุปี 2565 พล.ต.ต.อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ รองผู้บัญชาการสันติบาล นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 40 เกษียณอายุปี 2568 พล.ต.ต.นพปฎล อินทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ นักเรียนนายร้อยอบรม เกษียณอายุปี 2565 พล.ต.ต.กฤษฎา สุรเชษฐพงษ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 42 เกษียณอายุปี 2571 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 เกษียณอายุปี 2566
พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี นักเรียนนายร้อยอบรม เกษียณอายุปี 2565 พล.ต.ต.วรัตม์ชัย ศรีรัตนวุฑฒิ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 37 เกษียณอายุปี 2566 พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 40 เกษียณอายุปี 2569 พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 เกษียณอายุปี 2566 พล.ต.ต.สมพงษ์ เตชะสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 37 เกษียณอายุปี 2565
ส่วนกลุ่มลุ้น “ติดบัญชี” เลื่อนเที่ยวนี้ด้วย ยังมี พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 เกษียณอายุปี 2567 พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 เกษียณอายุปี 2565 พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 40 เกษียณอายุปี 2567 พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 42 เกษียณอายุปี 2570 พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นักเรียนนายร้อยรุ่น 42 เกษียณอายุปี 2569 พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 41 เกษียณอายุปี 2568 พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 41 เกษียณอายุปี 2568 พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 40 เกษียณอายุปี 2567 เป็นต้น
รวมถึง “คู่นายพลดาวรุ่ง” ของนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 50 ที่มีโอกาสขยับเสียบ “เก้าอี้สำคัญ”อย่าง พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อายุราชการยาวถึงกำหนดเกษียณอายุปี 2579 และ พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เกษียณอายุปี 2576
สรุปแล้วเอาเป็นว่าเส้นทางของแต่ละคนจะเจริญก้าวหน้าได้
ต้อง “มีของ” แทบทั้งนั้น
