กะโหลกปริศนาทวงหาความยุติธรรม

 

การเฝ้ารอคอยความยุติธรรมเป็นเรื่องน่าเศร้าของผู้เสียหายบางคน

อิทธิพลกลุ่มผู้กระทำความผิดมีอิทธิฤทธิ์อยู่เหนือกฎหมายจริงหรือ

บทพิสูจน์คดีอุ้มฆ่าอำมหิต นายโกศล เรืองดุก เสี่ยนักธุรกิจค้าหอยแครงในอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังไม่ปรากฏร่องรอยความคืบหน้าของแฟ้มการสืบสวนสอบสวน แม้เวลาผ่านนาน 2 เดือนเศษ

ย้อนความเดิมกันอีกรอบ หลังจาก น.ส.จินดาหรา วสินทรัพย์ อายุ 31 ปี ภรรยาของเหยื่อเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรไชยา จังหวัดราษฎรธานี ระบุ สามีถูกทำร้ายร่างกายที่บริเวณศาลาข้างบ้านเลขที่ 89 หมู่ 5 ตำบลตะกรบ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เหตุเกิดคืนวันที่ 2 พฤษภาคม 2564

พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปคุมทีมคลี่คลายปมร่วมกับ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8  พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ได้พยานสำคัญระบุแผนลวงสังหารอย่างเหี้ยมโหด ยิงทิ้งเหยื่อแล้วลากศพไปฝังดินอำพรางคดี ก่อนเปลี่ยนไปขุดศพนำขึ้นเรือไปกลางทะเลแล้วใช้เสาปูน 3 ต้น ผูกมัดติดกับศพทิ้งถ่วงน่านน้ำอ่าวไทยเพื่อกำจัดหลักฐานสำคัญ

รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดไชยาออกหมายจับผู้ต้องหา  8 คน ประกอบด้วย นายสุรัตน์ เศวตศิลป์ อายุ 43 ปี นายคำธร เศวตศิลป์ อายุ 32 ปี นายสุรชัย คงสุข อายุ 39 ปี นายเกรียงไกร แสงสง่า อายุ 34 ปี นายเจริญ คะเชนทอง อายุ 56 ปี นายจิรายุทธ เศวตศิลป์ อายุ 24 ปี นายทิวากร เลื่องสุนทร อายุ 33 ปี และนายนพดล เศวตศิลป์ อายุ 33 ปี

รอแล้วรอเล่ายังไร้เงา “ทีมฆาตกร”

ภรรยาเหยื่อต้องดั้นด้นเข้ากรุงเทพมหานครเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ร้องขอความเป็นธรรมให้ตำรวจกองปราบช่วยติดตามจับกุมคนร้าย ถึงกับ “ก้มกราบ” ขอร้องตำรวจที่รับเรื่องช่วยปัดเป่าทุกข์ระทมในคดีอำมหิตที่เกิดขึ้นกับสามี

ต่อมา พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการปราบปราม นำทีม พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผู้กำกับการสนับสนุน กองบังคับการปราบปราม พร้อมหน่วยปฏิบัติการพิเศษ “หนุมาน” อาวุธครบมือ บินด่วนลงพื้นที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เตรียมแผนปูพรมล้างอิทธิพลเมืองหอยใหญ่

สุดท้าย “ภารกิจติดหล่ม” ล่มปากอ่าว เจอประกาศิต นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ สั่งเบรก ต้องกลับหน่วยมือเปล่าด้วยความผิดหวัง

อีก 2 สัปดาห์ต่อมา  คณะทำงานสืบสวนสอบสวนระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามคำสั่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบดาบให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จารุวัฒน์ ไวศยะ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด วางแผนร่วมกับ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการปราบปราม

ส่งทีมนายตำรวจมือพระกาฬระดมกำลังปูพรมเข้าค้นเป้าหมาย 12 จุดในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดชุมพร

ก่อน “จั่วลม” คว้าน้ำเหลว

ครอบครัวยังคงต้องรอคอยความยุติธรรม ท่ามกลางความคาดหวัง “น้ำยา” ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต่อไป

กับลมปากของ นายตำรวจบางคน

อ้างผู้ต้องหาทั้งหมดกำลังติดต่อจะเข้ามอบตัว

ที่สุดยังไร้วี่แวว กระทั่งชาวบ้านได้เบาะแสพบความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ต้องหาซุกปีกนักการเมืองท้องถิ่นบนเกาะแห่งหนึ่ง

น.ส.จินดาหรา วสินทรัพย์ ภรรยาเหยื่อแจ้งข้อมูลตำรวจสุราษฎร์ธานีกลับไม่มีความเคลื่อนไหว

สร้างความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า

กระทั่งวันพระใหญ่ “อาสาฬหบูชา” ชาวประมงลากอวนเจอ กะโหลกมนุษย์ บริเวณหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใกล้เคียงกับจุดที่กองทัพเรือได้รับการประสานนำยานเอกซเรย์ใต้น้ำเพื่อหาร่างไร้วิญญาณ “เสี่ยโกศล” ก่อนหน้า

ไม่รู้เหมือนกันว่า กะโหลกปริศนา โผล่ขึ้นมาทวงหาความยุติธรรมหรือเปล่า

แต่ภรรยาสาวของผู้ตายอดหวั่นใจอยู่ไม่น้อย

กลัวผลการชันสูตรหัวกะโหลกจะถูกอุปโลกน์ให้เป็นคนอื่น

RELATED ARTICLES