ไม่รู้เกิดจากผลพวงการ “หยอดยาพิษ” จากคารมทำลายขวัญกำลังใจพ่นน้ำลายใส่โทรโข่งจาก “นายตำรวจบางคน” หรือเปล่า
ทำให้ตำรวจควบคุมฝูงชนมีปฏิกิริยา “ต่อต้านคำสั่ง” ผู้บังคับบัญชา
อาจเป็นเพียงส่วนน้อย แต่มีผลสะท้อนถึงกำลังพลส่วนใหญ่ใน “กองทัพสีกากี” ให้เกิดสภาวะสั่นคลอนคล้อยตามความเห็น
“บ้านเราเป็นอะไรกันอยู่หว่า” นายตำรวจคนหนึ่งอึดอัดระบายผ่านโลกโซเชียล
ไม่เข้าใจจริงๆ คือ ที่คนมันออกมาเรียกร้องก็เพราะเขาอยู่กันอย่างยากลำบาก วัคซีนก็ไม่ได้ เศรษฐกิจก็แย่ลงทุกวัน
พอขอร้องให้เยียวยาก็ไม่รับฟัง อ้างนู่นอ้างนี่สารพัดสารเพ
พอรวมตัวกันเรียกร้อง ก็ไปจับเขา
ตำรวจเรานี่ก็ดีเนอะ เขาทำกับเราขนาดนี้ก็ยังถวายหัว ผมบนหัวก็โดนริดรอน วัคซีนฉีดไปก็ยังติด
ยิ่งเห็นป้ายตำรวจของประชาชน แล้วบอกว่าเป็น “คนดี” นี่ยิ่งแล้วไปใหญ่ เพราะการบังคับใช้กฎหมาย แม่งไม่เท่าเทียมจริง ๆ ผู้ปฏิบัติโคตรทนทุกข์ทรมาน
“ตำรวจคนไหนดีมากๆ เจ้านายแม่งก็ส่งออก ทุกวันนี้ผมยังคิดเลยตำรวจที่ดี คือ อะไร เพราะตอนที่ผมต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความยุติธรรมของตัวเอง ไม่มีเจ้านายคนไหนออกมาช่วยเหลือสักคน”
มีแต่คนอยู่เป็นทั้งนั้น
เจ้าตัวยังบอกว่า คนที่เกี่ยวข้องกับการธำรงวินัยได้ดีทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ผบ.ตร.ขณะนั้น ก็ได้เกษียณอย่างสบาย ๆ (งานเกษียณแกผมยังไปร่วมเลย อลังการมาก แถมผลงานดีเตรียมสมัครผู้ว่า กทม.)
ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้ขึ้น รอง ผบ.ตร.
คนต้นเรื่อง ได้ขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.
รวมไปถึงผู้คุมนักโทษ ยังได้โควตาขึ้น ผกก. เรียกว่า “อิ่มเอมกันทั่วหน้า”
“ส่วนตัวพวกผมตำรวจที่เขาเคยบอกว่าดี แบบ A+ นอกจากถูกลงโทษแล้วแม่งยังโดนย้าย ใครตำแหน่งไม่ดี หรือ ห่างไกลอยู่แล้ว ก็อยู่ที่เดิมไป ไม่พอยังโดนงดขั้นเงินเดือน อย่างน้อย 3 ปี (ปีแรกผ่านไปแล้ว) กฎเกณฑ์ที่ไม่มีในกฎเกณฑ์ พอไปร้องถามแม่งก็บอกว่า เป็น ว.5 (ความลับ) พูดไม่ได้ (แต่ผมก็รู้นะ วันนั้นใครนั่งหัวโต๊ะ)”
ทีนี้จะให้ไปร้องเรียนที่ใครได้ ในเมื่อระดับบน สมคบคิดกันหมด
อย่าว่าแต่ร้องเรียนเลย จะแสดงความเห็นอะไรในพื้นที่ส่วนตัวก็ไม่ได้ อารมณ์เหมือนดาราโดนสั่งห้าม Call Out แหละ
คือ กลัวคนจะรับรู้ถึงความเหลวแหลกของวงการ
ทุกวันนี้ อุดมการณ์อยากเป็นตำรวจ แม่งเริ่มหายไปหมดล่ะ เพราะงานตำรวจจริง ๆ แทบไม่ได้ทำกันละ (เพราะทำไปก็ไม่ก้าวหน้า)
ตำรวจทุกวันนี้หันมาทำงานสร้างภาพถ่ายรูปกันเยอะ
“คนเก่งๆ ผมยอมรับว่ามีเยอะครับ แต่ไม่ค่อยออกมาแสดงฝีมือกันแล้ว และเตรียมหาช่องทางหลบหนีส่วนคนที่ออกมาเสนอหน้าตอนนี้ ก็โชว์สติปัญญาให้ประชาชนด่ากันนั่นแหละ ไม่แปลกที่เขาจะเสื่อมศรัทธาในอาชีพเรากัน”
ทุกสิ่งที่เจ้านายสั่งให้ผู้ปฏิบัติทำล้วนนำไปสู่ความขัดแย้งกับประชาชนทั้งสิ้น
เก่งในหน้าที่กันได้ แต่อย่าไปเก่งกับประชาชนเลยครับ ไม่เข้าท่า
“ประชาชนไม่ได้ขอตำรวจที่ดีครับ แต่ขอตำรวจที่เป็นกลางแค่นั้นเอง” เจ้าตัวสรุปได้คมกริบ
ขณะที่ พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ ธิติธารวัฒน์ อาจารย์ (สัญญาบัตร 2) กลุ่มงานอาจารย์ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภาค 5 จังหวัดลำปาง ระบุทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เตือนการใช้กำลังการปราบปรามผู้ชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยากให้รุ่นน้อง และนายตำรวจชั้นประทวนอย่ากระทำความรุนแรงต่อประชาชนตามที่ได้รับคำสั่งมา
ขุดเอาความคิดแบบว่า ผู้ชุมนุม คือ ผู้ก่อความไม่สงบในบ้านเมืองมาครอบหัว
“เหล่านี้ล้วนเติบโตมาจากระบบอุปถัมภ์ วิ่งเต้นเส้นสายจนเป็นใหญ่เป็นโต มันสั่งให้พวกท่านทำร้ายประชาชน มันได้ดิบได้ดีแล้วก็ทิ้งพวกท่านไปเป็นใหญ่ขึ้น ทิ้งให้พวกท่านต่อสู้คดีความที่จะถูกร้อง ม.157 และอื่นๆ ที่จะตามมา อย่าลืมว่าอายุความคดีเหล่านี้หลายปี”
เขาไม่อยากเห็นตำรวจผู้น้อยโดนคดีตามนาย
