“แม้เป็นงานเสี่ยง แต่เราได้สะท้อนว่า ตำรวจ ทหารเขาเสี่ยงกว่า”

พิราบน้อยน้องใหม่ฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา

“นก”ปิติพร เพรามธุรส อดีตนักข่าวทีวีสาวสังกัด “ประเด็นเด็ด” แห่งวิก 7 สี ย้ายค่ายไปอยู่ PPTV ช่อง 36

เกิดจังหวัดเชียงราย ไปโตหาดใหญ่ สงขลา ตามถิ่นเก่าของผู้เป็นพ่อ เข้าศึกษาระดับชั้นมัธยมโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุล ไปสอบเข้าคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทั้งที่ตอนแรกเลือกสอบกฎหมาย เพราะอยากเป็นทนายความ เป็นผู้พิพากษา ถึงขนาดสอบตรงเข้ารั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่พ่อแม่ไม่ให้มาเรียน เนื่องจากห่วง เห็นเป็นลูกสาวคนเดียว

เธอยอมรับว่า เสียดาย เพราะแอบมาสอบติดคณะนิติศาสตร์แล้วต้องสละสิทธิ์ สุดท้ายเรียนอะไรไม่ได้ เนื่องจากจบสายศิลป์ ต้องเข้าคณะวิทยาการจัดการ มองอนาคตว่าจะทำงานช่วยพ่อที่มีกิจการบริษัทรถทัวร์อยู่หาดใหญ่ ปรากฏว่า ใช้เวลาเรียนแค่ 3 ปีครึ่งก็จบ ตัดสินใจตระเวนหางานทำก่อน ไปสอบสัมภาษณ์หลายที่แข่งกับรุ่นพี่ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

สุดท้ายเลือกมาสมัครงานหนังสือพิมพ์สงขลาทูเดย์ทั้งที่ตัวเองไม่เคยมีประสบการณ์ด้านข่าวมาก่อน นกบอกว่า อยากลองไปทำดู เป็นนักข่าวด้านการศึกษา สัมผัสแล้วรู้สึกชอบ ดีกว่าไม่มีอะไรทำ ไม่ถึงปีเป็นยุคสถานีไอทีวีแตกออกมาแยกกันอยู่หลายบริษัท ได้ไปรู้จักรุ่นพี่นักข่าวส่วนกลางที่ลงมาพื้นที่เกาะลันตา เขาเลยชวนมาทำที่มีเดีย ออฟ มีเดียส์ พอลองไปสมัครดูแล้วก็ได้ เลยมาอยู่จนถึงทุกวันนี้

เข้ามากรุงเทพฯครั้งแรก เธอเล่าว่า มีโอกาสรับการอบรมการทำข่าวสืบสวนสอบสวนของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สะสมความรู้ในการทำข่าวได้ไม่น้อย แต่สมัยนั้นยังไม่มีรายการประเด็นเด็ด 7 สี เป็นแค่ผู้สื่อข่าวของมีเดีย “ตอนแรกพ่อแม่ก็ไม่ยอมให้มากรุงเทพฯ นกก็บอกว่า หนูไม่ใช่เด็กแล้ว พ่อแม่จะดูแลตลอดได้อย่างไร เขาเลยยอมปล่อยมา”

เด็กสาวผู้มาดมั่นเริ่มอาชีพนักข่าวด้วยการทำรายการ “แกะรอย” ป้อนให้สถานี TNN เจาะข่าวทุกอย่าง โดยเฉพาะแนวสืบสวนสอบสวนต้องแอบถ่าย แกะรอยขบวรการค้ายาเสพติดแบบที่ทีมงานสถานีโทรทัศน์ไอทีวีเคยทำมาก่อน เจ้าตัวสารภาพว่า มาทำงานที่นี่ตอนแรกชอบทำข่าวสังคม ชีวิตจริงๆ ไม่ชอบอาชญากรรมเลย เมื่อเขาให้ไปวิ่งก็เป็นโอกาสเลยลองดู มานั่งคิดว่า ทำไมเราต้องมาเจออะไรไม่ดีเจอเรื่องเลวร้าย อยากเลือกที่จะได้ดูพวกสังคม แนวสารคดีมากกว่า

ทำไปทำมา นกกลับถูกส่งลง 3 จังหวัดชายแดนใต้ไปถ่ายชีวิตตำรวจ ทหาร เกือบเรื่องราวสะท้อนชีวิตวีรบุรุษผู้เสียสละในพื้นที่ความรุนแรงมานำเสนอผ่านรายการประเด็นเด็ด 7 สีที่ผุดขึ้นมาใหม่ในช่องหมอชิต ทำให้เธอรู้สึกประทับใจในเนื้องานครั้งนั้นหลังได้ตามชุดเหยี่ยวดงเก็บกู้วัตถุระเบิดของจังหวัดนราธิวาส ด้วยความที่อยากรู้ว่า เขาทำงานกันยังไง แม้ข้างในไม่ได้สั่ง แต่ตัวเองอยากทำ ไปตามที่เสี่ยง รู้เลยว่า เวลามีเหตุก็ต้องวิ่งไป เป็นชุดแรกที่ต้องไปถึงก็ต้องระวัง

“เราและเขาก็ต้องระวัง ไปอยู่หลายเคส มันทำให้นกรัก 3 จังหวัด แม้เป็นงานเสี่ยง แต่เราได้สะท้อนว่า ตำรวจ ทหารเขาเสี่ยงกว่าเราเป็นผู้สื่อข่าวก็จะรู้อะไรเยอะ เรารู้ว่า เขาทำเพราะเป็นหน้าที่เขาอย่างหนึ่ง เพื่อให้อะไรกับอีกหลายๆ คน ส่วนใหญ่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดหรืออีโอดีจะเป็นคนในพื้นที่ เคยถามเขาเหมือนกันว่า ทำเพื่ออะไร เขาตอบสั้น ๆ ว่า วันหนึ่งถ้าเป็นลูกหลานเราล่ะ เขาก็ไม่ได้บอกว่า ต้องทำเพื่อชาติ เพื่อประเทศ”

สาวประเด็นเด็ดย้ำถึงการมีโอกาสไปสัมผัสงานใน 3 จังหวัดภาคใต้ว่า รู้สึกสนุก ชอบ ไม่ได้กลัวเลย รู้สึกว่าอยากทำ ไม่ได้คิดว่าเป็นผู้หญิงคนเดียว เรื่องอีโอดี ตอนแรกเขาไม่อยากให้ทำ เพราะเสี่ยง เราเลยบอกหัวหน้าว่า ถ้าขนาดเรายังไม่กล้าไปแล้วคนอื่นจะรู้ไหมว่า หน่วยอีโอดีทำอะไรบ้าง บอกหัวหน้าไปแบบนี้ เขาเลยยอมให้ไป แถมยังได้ไปทำฐานตำรวจตระเวนชายแดนที่ผืนป่าบาลาฮาลา พอออกอากาศแล้วรู้สึกภูมิใจเมื่อเสียงสะท้อนกลับมา

“ไม่รู้ว่า คนดูชอบหรือไม่ แต่มันเป็นผลสะท้อนให้ผู้ใหญ่เห็นว่า ลูกน้องทำงานยังไงจะได้มองบ้างว่า จะสนับสนุนยังไง นกทำจนรองผู้กำกับคนหนึ่งได้เป็นผู้กำกับแล้วก็รู้สึกดี เห็นผลที่ได้ทำข่าวเสนออกไป ความจริงนกทำงานไม่ได้หวังอะไรมากในอนาคต แค่ทำในสิ่งที่นกชอบ นกรัก แต่ก่อนนกก็วิ่งหมายรูทีน นกก็บอกหัวหน้าว่า ไม่อยากทำแบบนี้แล้ว อยากทำสกู๊ป ไปทำต่างจังหวัด อยากทำสิ่งที่ชอบ โชคดีที่มีหัวหน้าเข้าใจ”พิราบสาวหัวใจแกร่งทิ้งรอยยิ้ม

 

RELATED ARTICLES