“ความเจริญทางจิตใจนั้น เราจะซื้อด้วยเงินเป็นจำนวนเท่าใด ๆ ไม่ได้”

 

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2496

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานในการสวนสนามและพระราชทานธงชัยประจำกองโรงเรียนตำรวจภูธรภาค 4 ณ ลานพระราชวังดุสิต

ก่อนมีพระบรมราโชวาทว่า

ตำรวจทั้งหลาย ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้มาเป็นประธานในการสวนสนามและมอบธงชัยประจำกองโรงเรียนตำรวจภูธรภาค 4 ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของตำรวจ

เมื่อกี้นี้ ท่านทั้งหลายได้กล่าวคำสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระบรมรูปสมเด็จพระปิยะมหาราช ผู้ทรงก่อตั้งตำรวจไทย ต่อหน้าข้าพเจ้า และต่อหน้าทุกท่านที่มาร่วมชุมนุมอยู่ ณ ที่นี้

เราทุกคนได้ยินคำปฏิญาณของท่านและพร้อมที่จะเป็นพยานให้แก่ท่านในโอกาสเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้วมา

ข้าพเจ้าก็ได้เคยให้โอวาทกล่าวข้อเตือนใจท่านทั้งหลายไว้หลายประการ ทั้งให้รำลึกถึงคำสัตย์ปฏิญาณที่ได้กล่าวออกไปนั้นว่า เป็นสิ่งสำคัญเพียงไร ข้าพเจ้าจะไม่กล่าวซ้ำอีกในวันนี้ แต่จะขอเตือนตำรวจทั้งหลายไว้อีกข้อหนึ่งว่า ท่านจะต้องประพฤติและปฏิบัติตามสัจวาจา และโอวาทของข้าพเจ้าที่ได้กล่าวไว้แล้วนั้นให้มั่นคงอยู่เสมอเป็นเนืองนิตย์ และขอให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ราชการของแต่ละท่านด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ให้คำนึงถึงประโยชน์ของชาติบ้านเมืองอันเป็นประโยชน์ส่วนรวมเพื่อให้บรรลุผล

คือ ความสงบสุขของราษฎรและความเจริญรุ่งเรืองถาวรของชาติไทย

ข้าพเจ้าได้มอบธงชัยประจำกองโรงเรียนตำรวจภูธรภาค 4 ในวันนี้ก็โดยเห็นว่า กองโรงเรียนนี้เป็นแหล่งฝึก และอบรมตำรวจส่วนหนี่งเพื่อเพิ่มพูนกำลังของประเทศชาติ ในด้านรักษาความสงบภายในและทั้งป้องกันความไม่สงบอันจะมาจากภายนอกประเทศด้วยจึงสมควรจะได้มีธงประจำกองนี้ไว้เป็นมิ่งขวัญประจำกอง เพราะธงชัยนี้เป็นเสมือนเครื่องหมายแทนชาติ ศาสนา และตัวข้าพเจ้า จงพิทักษ์รักษาธงนี้ไว้ด้วยความรักและเคารพให้ยิ่งกว่าชีวิตของตน เพื่อเป็นมิ่งขวัญและศักดิ์ศรีของกรมตำรวจสืบไป

ข้าพเจ้ามีความยินดีที่จะกล่าวว่า กิจการของกรมตำรวจในยุคนี้ ได้ขยายส่วนราชการและหน้าที่กว้างยิ่งขึ้น เป็นการก้าวหน้าไปสู่ความเจริญตามทางวิทยาการแผนใหม่ ทั้งได้กระทำหน้าที่บริการช่วยเหลือประชาชนในด้านต่าง ๆ ดังที่ท่านทั้งหลายได้ทราบกันอยู่แล้ว

ข้าพเจ้าจึ่งใคร่จักขอให้ท่านคำนึงไว้ด้วยว่า ความเจริญนั้นต้องพร้อมด้วยเครื่องมือเครื่องใช้ประการหนึ่ง วิชาความรู้ประการหนึ่ง และจิตใจสูงประการหนึ่ง คือ ถ้าเราต้องการจะทนุบำรุง ส่งเสริมกำลังของเราให้เข้มแข็ง เมื่อเรามีเงินก็จะจัดซื้อหาเครื่องอาวุธยุทโธปกรณ์นานาชนิดที่มีคุณภาพดีมาเพิ่มพูนให้มากยิ่งขึ้นเพียงใดก็ย่อมจะทำได้ หรือถ้าเราต้องการจะส่งเสริมสมรรถภาพในทางความรู้วิทยาการใด ๆ ให้ทันเทียมกับอารยะประเทศ เราก็จะจัดส่งคนของเราให้ออกไปศึกษาค้นคว้า และหาอุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบวิทยาการแผนใหม่ ๆในต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ปรับปรุงส่งเสริมสมรรถภาพของเรา

แต่ความเจริญทางจิตใจนั้น เราจะซื้อด้วยเงินเป็นจำนวนเท่าใด ๆ ไม่ได้

ความเจริญทางจิตใจนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งนัก เพราะเป็นหน้าที่ของแต่ละคนที่จะต้องทำตัวของตนเองให้ดีเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ขอให้ตำรวจทั้งหลายจงพยายามช่วยกันสร้างความเจริญในด้านจิตใจนี้ให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นและจงอบรมฝึกสอนให้เข้าถึงจิตใจให้เกิดเป็นนิสัย ให้เป็นคนองอาจ กล้าหาญ เข้มแข็ง อดทน ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รักษาระเบียบวินัยโดยเคร่งครัด มีศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีงาม ทำตนให้เป็นผู้ควรแก่การเคารพนับถือของมวลชนให้สมเกียรติเป็นตำรวจไทยที่ดี สามารถที่จะผูกจิตประชาชนให้เห็นว่า ตำรวจไทยเป็นมิตรที่ดี เป็นที่วางใจในอันจะนำความสงบสุขให้แก่ราษฎร

ทั้งนี้ เราต้องช่วยกันพยายามสร้างความเจริญให้พร้อมทั้งด้านเครื่องมือ เครื่องใช้ ในด้านวิชาความรู้ และด้านจิตใจทั้ง 3 ประการนี้จึ่งจะถึงซึ่งความเจริญที่แท้จริง และจะบรรลุซึ่งความรุ่งเรืองวัฒนาถาวรของชาติไทยอันเป็นที่รักของเราตลอดไป

 

RELATED ARTICLES